"กฤษฎา"ประกาศไทยเป็นศูนย์กลางแปรรูปยางส่งออก เปิด6โรงงานดูดซับยางจากตลาด คาดราคายางขยับขึ้น51-55บาทต่อกก. ลงพื้นที่กระบี่-ตรัง พาคณะทูต-ผู้ประกอบการดูแหล่งผลิตยาง เรียกความเชื่อมั่นศักยภาพยางไทย
28 มิ.ย.61 ที่ จ.กระบี่ นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเปิดงานเสริมสร้างศักยภาพเพื่อขยายตลาดใหม่ยางพาราไทย โดยมีคณะทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย ผู้ประกอบการ ผู้แปรรูป กว่า 20 ประเทศ เข้าร่วมงาน ว่า ขณะนี้มีผลผลิตยางเกือบ 5 ล้านตันต่อปี และนายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้ทำการแปรรูปเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งตนมีข่าวดีรัฐบาลจัดพื้นท่ีรองรับนักลงทุนแปรรูปยางได้สิทธิพิเศษทางภาษี คือ เขตระเบียบเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และเมืองธุรกิจยาง ที่สงขลา ซึ่งวันที่ 29 มิ.ย.ตนจะพาคณะไปดูพื้นที่ปลูกยางแหล่งใหญ่ของประเทศให้เชื่อมั่นการเป็นผู้ผลิตและส่งออกยางรายใหญ่ของโลก
"วันนี้มีผู้ประกอบการ กับผู้ผลิตรายใหญ่ในตลาดใหญ่ มาร่วมดูพื้นที่ผลิต คือ ตลาด สหรัฐอเมริกา อเมริกาใต้ และอาร์เจนติน่า ที่ใช้ยางผลิตล้อรถยนต์จำนวนมากส่งยุโรป ขณะเดียวกัน ได้ให้การยางแห่งประเทศไทย(กยท.)ดำเนินการโรงงานแปรรูป 6 แห่งมีทุกภาค แปรรูปยางจากน้ำยาง เป็นยางก้อน เพื่อนำไปขนส่งทำเป็นล้อรถยนต์ จะร่วมทุน กับ สหกรณ์การยาง มีทุนตั้งต้น 250 ล้านบาท และนายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติเงินทุนหมุนเวียนมาให้ กยท.อีก 2 พันล้านบาท มาใช้แปรรูป" นายกฤษฎา กล่าว
รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า จะต้องคุมปริมาณผลผลิตไม่ให้ล้นตลาด โดยไม่ให้ปลูกยางเพิ่ม และขณะนี้หน่วยงานต่างๆ ได้สั่งซื้อยางกว่า 7 หมื่นตัน จากยอดใช้ยาง 1.4 แสนตัน คาดว่าราคาจะขยับตัวสูงขึ้น เมื่อดูดซับออกจากตลาด แต่ขณะนี้ยังไม่หยุดกรีดยาง จะดูช่วงที่เหมาะสม เพราะมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จึงเปลี่ยนมาตั้งศูนย์กลางการผลิตยาง โดยโรงแปรรูปยางเพื่อส่งออก ทำให้ราคาขยับขึ้น และจะไม่ต่ำไปกว่า 40 บาทต่อ กก.ดูจากปริมาณใช้ยางทั่วโลก
ด้าน นายเยี่ยม ฤาวโรฤทธิ์ รักษาการผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า ปลายปีนี้มีเป้าส่งออกกว่า 2 ล้านตัน จากตลาดใหม่ และจากโครงการวันนี้ได้มีคำสั่งซื้อยางมาแล้ว 3 แสนตัน จากแถบยุโรป และตะวันออกกลาง มั่นใจราคายางจะขยับขึ้น 10% ประมาณ 51 - 55 บาท โดยมีมาตรการผลักดันจะทะยอยออกมา เช่น การตั้งเป็นศูนย์กลางแปรรูปยาง (โออีเอ็ม) เป็นยางแท่ง และวันที่ 2 ก.ค.จะประกาศยางราคาเดียว ทั่วประเทศ ใน 6 ตลาดกลางของ กยท.ได้ให้เงินหมุนเวียน 250 ล้านบาท เพิ่มแข่งขันซื้อขายยางให้มากขึ้น ใช้ราคาอ้างอิงจากต้นการผลิตและส่วนต่างที่เกษตรกรจะได้ พร้อมกับตั้งบริษัทร่วมทุนพัฒนายาง กับสหกรณ์ที่มีศักยภาพ ซื้อยางแปรรูปยาง ภายในเดือน ก.ค.คาดว่าจะได้เริ่มดำเนินการ และให้มีกองสวัสดิการให้กับเกษตรกรสวนยาง วงเงิน 800 ล้านบาท ซี่งจะนำเงินนี้ไปชดเชยเกษตรกร เข้าโครงการหยุดกรีด สลับวันกรีดบางช่วง 10 - 15 วัน เพื่อยกระดับราคายางขึ้นได้ในช่วงยางล้นตลาด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี