2 ก.ค.61 บริเวณห้องประชุมพยุง ชั้น 4 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนครพนม (มนพ.) นายพงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล สื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดนครพนม ที่ได้เกาะติดข่าวใน มนพ.มาโดยตลอด ได้เดินทางไปให้ปากคำแก่คณะกรรมการสอบสวนพิจารณาเพื่อลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรงกับคณาจารย์จำนวนหนึ่งของมหาวิทยาลัยนครพนม  ในข้อกล่าวหาก่อความไม่สงบ ทำให้ มหาวิทยาลัยนครพนม เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์นฤชิต แสนปากดี เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวน 

ก่อนหน้าที่จะเริ่มการสอบสวนนายพงศ์สุคนธ์ในฐานะพยาน ถามคณะกรรมการว่า ได้รับการแต่งตั้งจากผู้ใด ผศ.นฤชิต ตอบว่าทางมหาวิทยาลัยนครพนมได้มีคำสั่งเลขที่ 1022/2561 ลงวันที่ 27 เมษายน 2561 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับบุคคลากรของมหาวิทยาลัยนครพนมจำนวนหนึ่ง  ในข้อหาก่อความไม่สงบทำให้มหาวิทยาลัยฯ เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยมีตนเป็นประธานกรรมการสอบสวน ซึ่งพวกตนทั้งหมดไม่มีส่วนได้เสียใดๆ และการสอบสวนครั้งนี้คณะกรรมการจะให้ความยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้นายพงศ์สุคนธ์ได้เผยว่าเชื่อมั่นในการทำงานของคณะกรรมการเสมอ แต่ที่ผ่านมาตนพบเห็นพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลใน มนพ. หลายอย่าง อาทิเช่น กรณีเกิดเครื่องฝึกบินตกเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2559 มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ หนึ่งในนั้นเป็นบุคคลภายนอกด้วย หลังเกิดเหตุมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวมีการชี้มูลความผิด ว่ามีผู้กระทำความผิดในเหตุการณ์ดังกล่าวถึง  4 คน แต่ ทางมหาวิทยาลัยนครพนมกลับไม่มีการดำเนินการใด ๆ กับผู้ผู้ถูกกล่าวหา แต่กลับแต่งตั้งในตำแหน่งที่สูงขึ้น ตนถึงไม่มั่นใจในขบวนสอบสวนว่าสามารถให้ความเป็นธรรมได้จริงหรือไม่

จากนั้นการสอบสวนก็เริ่มขึ้น โดยผู้ถูกกล่าวหาคือ ผศ.ดร.เพ็ญศิริ ดำรงภคภากร คณบดีวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี มนพ. จากกรณีเปิดแถลงข่าวที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารเฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2560 โดยกล่าวหาว่านางเพ็ญศิริ เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยไม่ได้ขออนุญาต ผู้บังคับบัญชา ตนในฐานะสื่อมวลชน ได้ชี้แจงว่า เหตุการณ์ในวันนั้น นางเพ็ญศิริ ได้ชี้แจงถึงกรณีที่ ศ.(พิเศษ) ดร.ภาวิช ทองโรจน์ นายกสภา มนพ. ให้สัมภาษณ์เมื่อเดือน ก.พ.60 ว่า สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ตรวจสอบนางเพ็ญศิริ  กรณีที่ขออนุมัติทุนการศึกษาระดับปริญญาเอกให้กับตนเองและลูกน้องโดยมิชอบ โดยมีการปลอมแปลงเอกสาร จัดทำรายงานการประชุมที่เป็นเท็จ จน สตง.ชี้มูลการทุจริต โดยให้เรียกเงินคืน และเสนอให้มหาวิทยาลัยดำเนินคดีอาญา ซึ่งในวันนั้นนางเพ็ญศิริ ในฐานะผู้เสียหายได้เปิดแถลงข่าวเพื่อขอชี้แจงแก้ต่างให้ตัวเอง ว่า ได้สอบชิงทุนจากรัฐบาล มีสำนักงาน ก.พ.ดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย ไม่ใช่ใช้เงินของ มนพ. ตั้งแต่เป็นคณบดีฯ ยังไม่เคยได้รับหนังสือจาก สตง.แม้แต่ฉบับเดียวที่ การที่นายภาวิช ทองโรจน์ ให้สัมภาษณ์เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2560 นั้น เป็นการกล่าวให้ร้ายตน  ระหว่างแถลงข่าว ผศ.ดร.เพ็ญศิริกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ มีน้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลา จากนั้นมีตัวแทนของนักศึกษา ว.พยาบาลฯ มอบดอกกุหลาบเพื่อเป็นกำลังใจ ซึ่งนายพงศ์สุคนธ์ได้กล่าวยืนยันต่อคณะกรรมการเพิ่มเติมว่า ผศ.ดร.เพ็ญศิริฯแถลงข่าวเฉพาะที่ถูกพาดพิงเท่านั้น แต่ก่อนจะกลับได้ไปนั่งดื่มกาแฟที่ห้องแม่บ้าน โดย ผศ.ดร.เพ็ญศิริฯมานั่งด้วย แล้วเกริ่นๆว่า “เขาจะเล่นงานดิฉันในตอนประเมิน” ต่อมาไม่กี่เดือนก็ถูกประเมินไม่ผ่านจริงๆ “โดยประเมินครั้งแรกนั้นผ่าน แต่มีบางคนไม่พอใจ สั่งให้ประเมินใหม่รอบสอง กำชับว่าไปหาความเลวของเขามา”  ตนจึงคิดว่าการตั้งข้อกล่าวหาต่อนางเพ็ญศิริ ในครั้งนี้น่าจะเป็นการแก้แค้นส่วนตัวมากกว่า  นายพงศ์สุคนธ์กล่าวกับคณะกรรมการสอบวินัยฯในที่สุด

ซึ่ง มหาวิทยาลัยนครพนมมีปัญหาหมักหมมมาหลายปี แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข คณาจารย์เกิดความขัดแย้งกันเอง การเรียนการสอนจึงไม่ราบรื่น ส่วนใหญ่จะเน้นปลูกสร้างอาคาร โดยมีประโยชน์ใช้สอยไม่มากนัก ล่าสุดเสนอโครงการก่สร้างสนามกีฬาสปอร์ตคอมเพล็กซ์ โดยพยายามจะเอาที่สาธารณประโยชน์ป่าชุมชนของบ้านเนินสะอาด ต.นาราชควาย อ.เมือง จ.นครพนม เป็นสถานที่ก่อสร้าง แต่ถูกชาวบ้านในพื้นที่คัดค้านเพราะเป็นป่าผืนเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน