9 ก.ค.61 ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(บก.ภ.จว.) ภูเก็ต พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) ร่วมประชุมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ตำรวจภูธรภาค 8 นำโดย พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8(ผบช.ภ.8) ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ ชี้แจงถึงแนวทางการความคืบหน้าการคลี่คลายคดีเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุเรือล่ม และดำเนินการกับผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับเรือทั้ง 2 ลำ คือ เรือเซเรนาต้า และเรือฟินิกซ์ หลังประสบเหตุล่มบริเวณเกาะเฮ เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จำนวนมาก
ทั้งนี้ จากการสรุปตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวล่าสุด ที่ลงเรือฟินิกซ์ จำนวน 89 คน ไม่รวมลูกเรืออีก 12 คน พบรอดชีวิตช่วยเหลือไว้ได้ จำนวน 37 คน เสียชีวิต 41 ราย อยู่ระหว่างค้นหา 11 คน ในจำนวนนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบรายชื่อว่าลงเรือจริงหรือไม่ 5 คน ทำให้เหลือที่ต้องค้นหา 6 คน ในจำนวนนี้พบศพแล้ว 1 รายติดอยู่ใต้เรือ แต่ยังไม่สามารถนำขึ้นมาได้
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวในที่ประชุมถึงการทำงานว่า ขอให้ดำเนินการให้ครอบคลุมทุกด้าน และการสอบสวนให้เร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว โดยเฉพาะในส่วนของนักท่องเที่ยวที่ได้รับแจ้งว่าไม่ได้ร่วมลงเรือไปในวันเกิดเหตุจำนวน 5 รายเป็นใครบ้าง ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องได้รับการยืนยันจากทางสถานทูตจีนด้วย ส่วนเรื่องเรือจะต้องตรวจสอบให้ชัดว่ามีการจดทะเบียนที่ไหนอย่างไร ขณะที่ของการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลสูญหายเท่าไหร่ เสียชีวิตเท่าไหร่ จะต้องมีความชัดเจน เพราะมีผลทางกฎหมาย
แหล่งข่าวรายหนึ่ง ระบุว่า เรือเซเรนาต้าที่ประสบอุบัติเหตุ จากการจรวจสอบพบว่าเป็นเรือจากต่างประเทศที่เข้ามายื่นขออนุญาตทำการท่องเที่ยว ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเรือลำนี้เข้ามาได้อย่างไร เพราะในการยื่นขอจดทะเบียนจะต้องมีแบบพิมพ์เขียวยื่นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เองจะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลในเชิงลึก
ขณะที่เมื่อช่วงเช้าวันนี้(9 ก.ค.61) ที่ท่าเทียบเรือศูนย์วิจัยฯ บ้านแหลมพันวา ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เรือหลวงเจ้าพระยา เรือหลวงหัวหิน เรือหลวงปันหยี เรือหลวงทองหลาง เรือ ต.232 เรือ ต.992 ยังคงจอดลอยลำภายในอ่าวและเทียบท่า เตรียมความพร้อม และรอคำสั่ง ออกดำเนินการค้นหาและเก็บกู้ร่างผู้สูญหาย เนื่องจากในวันนี้สภาพอากาศค่อนข้างรุนแรง และเป็นอุปสรรค มีฝนตกประกอบกับขึ้นลมในทะเลมีกำลังแรง
ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 9 (สบทช.9) มีการเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่เพื่อสนับสนุนภารกิจต้อนรับคณะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเหตุการณ์เรือล่มที่ จ.ภูเก็ต และเยี่ยมผู้ป่วยที่ รพ.วชิระภูเก็ต ในเวลา 11.30 น.
ในส่วนของตัวเลขผู้บาดเจ็บและสูญหายนั้น ข้อมูลล่าสุดที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่มจังหวัดภูเก็ต(ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง) อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัด(ผวจ.) ภูเก็ต , พล.ร.ท.สมนึก เปรมปราโมทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 , พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และ พล.ต.อาคม พงศ์พรหม ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 ร่วมกันแถลงความคืบหน้าการค้นหาผู้สูญหาย
นายนรภัทร กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวที่ลงเรือฟินิกซ์ เพียง 89 คน จากเดิม 105 คน เป็นชาวจีน 87 คน ยุโรป 2 คน ทำให้ตัวเลขผู้รอดชีวิตเหลือเพียง 37 คน จากเดิมแจ้งว่า 49 คน พบร่างผู้เสียชีวิต 41 คน ทำให้ยอดผู้สูญหายเหลือเพียง 11 คน โดยในจำนวน11 นี้ มีรายงานว่าอาจรอดชีวิต 5 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้เหลือผู้สูญหายที่ต้องค้นหาต่อเพียง 6 คนโดย 1 ในนั้นพบร่างแล้วถูกเรือทับติดอยู่ใต้ท้องทะเล ยังไม่สามารถกู้ขึ้นมาได้ หากข้อมูลไม่เปลี่ยนแปลงขณะนี้จึงเหลือผู้สูญหายเพียง 5 รายที่ยังไม่ทราบชะตากรรม
ขณะที่ พล.ร.ท.สมนึก กล่าวถึงแผนการค้นหาผู้สูญหายส่วนที่เหลือ ว่า ในส่วนของศพที่ถูกเรือทับอยู่นั้น ทางหน่วยกู้ภัยของทัพเรือและหน่วยเกี่ยวข้องได้มีการเตรียมความพร้อมนำอุปกรณ์ในการฉีดทราย เพื่อทำการนำร่างของผู้เสียชีวิตออกมา รวมทั้งได้มีการเตรียมความพร้อมในการกู้เรือ ซึ่งจะมีทางเจ้าท่าฯ เป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการ และได้มีการแจ้งให้ทางผู้ประกอบการเข้ามาดูแลในส่วนนี้แล้ว หากสภาพอากาศเอื้ออำนวยก็จะดำเนินการได้ทันที
ส่วน พล.ต.ต. ธีระพล กล่าวว่า ในส่วนของศพผู้เสียชีวิตจำนวน 41 รายนั้น ขณะนี้สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลได้แล้วทั้งหมด และมีญาติมายืนยันตัวตนแล้ว 33 ราย ยังคงเหลือรอการยืนยัน 4 ราย โดยทางคณะกรรมการพิจารณาการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล สามารถมอบศพให้กับญาติเพื่อรับไปดำเนินการพิธีกรรมทางศาสนาได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี