9 ก.ค.61 เวลา 10.30 น. สำนักงานพลังงานจังหวัดเชียงใหม่ กระทรวงพลังงาน นำสื่อมวลชน เข้าเยี่ยมชมโครงการในพื้นที่ตำบลแม่แวน อำเภอพร้าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการในพื้นที่ ที่สำนักงานพลังงานจังหวัดเชียงใหม่ดำเนินการ เพื่อสร้างความเข็มแข็งให้กับชุมชน สร้างรายได้ และอาชีพเสริม โดยเทคโนโลยีพลังงานชุมชน อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาสำคัญในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ อย่างปัญหาหมอกควัน และปัญหาภัยแล้ง วิสาหกิจชุมชนถ่านอัดแท่ง – โรงอัดถ่านกลุ่มวิสาหกิจชุมชนถ่านอัดแท่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 3 บ้านเหล่า ตำบลแม่แวน อำเภอพร้าว โดยชาวบ้านได้รวมกลุ่มจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนถ่านอัดแท่งได้ประมาณ 1 ปีแล้ว จากการสนับสนุนของสำนักงานพลังงานจังหวัดเชียงใหม่ และองค์การบริหารส่วนตำบลแม่แวน ทั้งในแง่ความตระหนักรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องปัญหาหมอกควันไฟป่า และสนับสนุนเทคโนโลยีพลังงานที่ใช้ในการผลิตถ่านอัดแท่งอย่างครบวงจร โดยสำนักงานพลังงานจังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินโครงการพลังงานชีวมวลประชารัฐ ลดหมอกควัน จังหวัดเชียงใหม่ ในพื้นที่อำเภอพร้าว เมื่อปี 2560 ภายใต้โครงการพลังงานชุมชนจัดการตนเองทางด้านพลังงาน งบประมาณจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน เน้นแก้ไขปัญหาหมอกควันจากการเผาในที่โล่งแจ้ง ด้วยเทคโนโลยีเตาเผาถ่าน 200 ลิตรชนิดลดควัน ซึ่งเกิดจากการผสมผสานแบบเตาของคุณโจนจันได แบบของมูลนิธิอุ่นใจ แบบของเชียงราย และแบบของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) จนได้แบบที่เหมาะสมในการเผาถ่านซังข้าวโพด และกิ่งไม้ ที่เกิดควันน้อยมาก นำมาผลิตเป็นถ่านอัดแท่ง ซึ่งมีคุณสมบัติไร้ควัน ไร้กลิ่น ได้ความร้อนสูง ใช้งานได้นานกว่าถ่านทั่วไป ซึ่งเป็นที่ต้องการในท้องตลาดเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
นายชำนาญ กายประสิทธิ์ พลังงานจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า “ในปี 2558 – 2559 พื้นที่อำเภอพร้าว ถือเป็นจุดที่มี Hot Spot จำนวนค่อนข้างมาก ส่วนนึ่งเกิดจากการเผาเศษวัสดุชีวมวลเหลือทิ้งในที่โล่ง ทั้ง ซังข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และกิ่งไม้ใบไม้ จากไร่สวนต่าง ๆ สำนักงานพลังงานจังหวัดเชียงใหม่ตระหนักถึงปัญหาและเล็งเห็นถึงศักยภาพของเศษวัสดุชีวมวลที่เหลือทิ้งว่า สามารถนำมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงพลังงานสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างรายได้ให้กับชุมชน ควบคู่ไปกับการลดปัญหาการเผาทิ้งในที่โล่งได้ โดยการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ ให้ตระหนักถึงปัญหา และสนับสนุนเทคโนโลยีพลังงานในส่วนของการทำถ่านอัดแท่ง ทั้งเตาเผาถ่านชนิดลดควัน เครื่องบดย่อยป่นถ่าน เครื่องผสมถ่าน และเครื่องอัดแท่งถ่าน ซึ่งช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร สามารถใช้ในครัวเรือน และจำหน่ายสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้”
นายกมล เรือนแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่แวน กล่าวเสริมว่า “ทาง อบต. ได้สนับสนุนให้ตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนถ่านอัดแท่งขึ้นมา ซึ่งพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลแม่แวน ถือเป็นกลุ่มชุมชนที่มีความเข้มแข็งอยู่แล้ว พร้อมให้การสนับสนุนและความร่วมมือกับทางราชการ อีกทั้งชุมชนเองก็ได้ประโยชน์เป็นอย่างมากจากการเข้าร่วมโครงการ เพราะจากเดิมวัสดุทางการเกษตรเหลือทิ้ง ไม่ว่าจะเป็น ซังข้าวโพด กิ่งไม้ต่าง ๆ ถือเป็นของไร้ค่า ส่วนใหญ่ก็จะเผาทิ้ง กลายเป็นสร้างมลพิษทางอากาศด้วย แต่ปัจจุบัน เศษวัสดุเหลือทิ้งเหล่านั้นถูกนำมาขายให้กลับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนถ่านอัดแท่ง สร้างรายได้ต่อแรก หลังจากนั้นก็นำมาเผาโดยเตาเผาถ่านชนิดลดควัน เข้าสู่กระบวนการผลิตถ่านอัดแท่ง นำไปขายสร้างรายได้นำมาแบ่งกันในกลุ่มวิสาหกิจฯ ถือเป็นความร่วมมือที่ก่อให้เกิดประโยชน์ 2 ต่อ นอกจากจะลดหมอกควันแล้ว ยังสร้างรายได้เพิ่ม สร้างอาชีพใหม่ ๆ ให้กับในชุมชนอีกด้วย”
นายอำพล ไชยนุรักษ์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนถ่านอัดแท่ง เล่าความประทับใจให้ฟังว่า “กลุ่มวิสาหกิจนี้ ถือเป็นต้นแบบการรวมกลุ่มสร้างงานสร้างอาชีพเสริม ซึ่งเกิดจากการนำเอาวัสดุที่คนคิดว่าไร้ค่า แถมการกำจัดยังสร้างปัญหามลพิษขึ้นด้วย มาสร้างให้เกิดมูลค่าเพิ่ม” และนำเยี่ยมชมกระบวนการผลิตถ่านจริง พร้อมอธิบายให้ฟังว่า “ในการเผาถ่านด้วยถัง 200 ลิตร 1 ถัง ถ้าเป็นซังข้าวโพดจะใช้ประมาณ 30 กิโลกรัม เผาประมาณ 1 ชั่วโมง ได้เป็นถ่านออกมาประมาณ 8 – 10 กิโลกรัม แต่ถ้าเป็นกิ่งไม้ เช่น กิ่งลำไย กิ่งมะม่วง จะเผานานกว่าหน่อย แล้วแต่ขนาดไม้ และความสุกของไม้ เต็มถังก็จะได้ถ่านประมาณ 1 ใน 3 ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วในพื้นที่ อบต.แม่แวน จะเป็นกิ่งไม้มากกว่าซังข้าวโพดที่นำมาผลิตถ่านที่นี่ ส่วนในกระบวนการผลิตถ่านอัดแท่ง ก็จะนำถ่านที่เผาได้ มาเข้าเครื่องบดย่อยเพื่อป่นเป็นผง นำมาเข้าเครื่องผสมโดยส่วนผสมคือ น้ำ แป้งมัน และผงถ่าน จากนั้นก็จะไปเข้าเครื่องอัดเพื่อออกมาเป็นถ่านอัดแท่ง นำมาบรรจุถุงติดตราขาย กิโลกรัมละประมาณ 20 บาท” “เราลงแค่แรง ค่าเศษวัสดุก็ไม่กี่บาทเพราะปกติเขาทิ้งอยู่แล้ว เครื่องมือก็ได้รับการสนับสนุนจากพลังงาน รายได้ก็มาแบ่งกัน นอกจากนั้นคือความภูมิใจ ที่สร้างเสริมรายได้ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาหมอกควันที่ชุมชนมีส่วนก่อขึ้นด้วย” นายอำพลฯ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี