ผู้ว่าฯ ภูเก็ต-ตัวแทนทางการจีนร่วมพิธีเรียกขวัญเหตุเรือล่ม สร้างกำลังใจให้กับญาติผู้ประสบเหตุ พร้อมทยอยเผาศพผู้เคราะห์ร้ายต่อเนื่อง ด้านเจ้าท่าห้ามเรือเล็กออกจากฝั่งเด็ดขาด ขณะที่ทะเลตรังคลั่งซัดเรือสินค้าอับปาง 17 ตู้คอนเทนเตอร์หล่นทะเล ส่วน11 ลูกเรือปลอดภัย
เมื่อเช้าวันที่ 11 กรกฎาคม นายนรภัทร ปลอดทอง ผวจ.ภูเก็ต นายเฉิน สง เฟิง รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศจีน และนายสันติ ป่าหวาย รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเรียกขวัญให้กับผู้ประสบเหตุจากเหตุการณ์เรือล่ม เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา บริเวณโป๊ะท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ซึ่งมีญาติของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเดินทางมาร่วมพิธีจำนวนมาก
ผวจ.ภูเก็ต ให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้ยอดผู้รอดชีวิต 42 คนผู้เสียชีวิตจำนวน 45 คน พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเสร็จสิ้นแล้ว 43 คน สูญหาย 2 คน ฌาปนกิจศพแล้วจำนวน 5 ศพ นำกลับไปประกอบพิธี ณ ประเทศจีน 2 ศพ และขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การช่วยเหลือในการกู้ภัยทางทะเลหนนี้
ด้านพลเรือตรีเจริญพล คุ้มราษี รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 เผยว่าจากกรณีเกิดเหตุขณะนี้มีผู้สูญหายจำนวน 2 คนหนึ่งในนั้นมองเห็นด้วยตาว่าติดอยู่ใต้ซากเรือฟิกนิกซ์ ก็จะดำเนินการกู้ต่อไป ส่วนอีก1 รายจะได้ส่งเฮลิคอเตอร์ขึ้นค้นหา ทั่วบริเวณทะเลรอบเกาะพีพี จังหวัดกระบี่ พังงาและสตูล
ทะเลคลั่ง-งดเรือเล็กออกจากฝั่ง
ส่วนทางสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ออกประกาศที่ 22/2561 ห้ามเรือมีความยาวน้อยกว่า 12 เมตร ออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด และประกาศที่ 23 /2561 ห้ามเรือเจ็ทสกี เรือลากร่มและเรือเครื่องเล่นกิจกรรมทางน้ำทุกประเภทออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเนื่องด้วยกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่าในช่วงนี้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น บริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2 – 4 เมตร จากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน
ส่งกำลังพลออกกู้เรืออีกรอบ
เมื่อเที่ยงวันเดียวกันนักประดาน้ำทัพเรือ (ทีมสคูบ้า) ลงเรือยางไปยังจุดเรือฟิกนิกซ์ จมเพื่อดำลงไปผูกเชือกขนาดใหญ่กับตัวเรือเพื่อให้ทีมดำน้ำSurface ไต่ลงไปได้
ต่อมา นาวาเอกธานินทร์ ทิพย์โส รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่3 ซึ่งเป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติในการดำน้ำกู้ร่างผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า สภาพคลื่นลมเเรง คลื่นสูงกว่า 3 เมตร เป็นอุปสรรค ต่อการปฏิบัติงานของทีม Surface เนื่องจากไม่สามารถหยุดเรือหลัก(เรือหลวงทองหลาง)ให้นิ่งได้ เสี่ยงจะพัดออกจากจุดที่กำหนด และยังมีแนวโน้มที่รุนเเรงขึ้นในช่วงบ่าย ขณะเดียวกันไม่สามารถนำเรือหลวงปันหยี ที่เป็นเรือให้กำลังของปั้มลมเพื่อดูดทรายใต้น้ำรอบตัวเรือที่จม เข้าเทียบกับเรือทองหลางได้ จึงต้องมีการเปลี่ยนเเผนที่จะนำอุปกรณ์ ให้กำลังลมมาอยู่ในเรือลำเดียวคือเรือหลวงทองหลาง เเต่จะต้องเข้าจอดเทียบท่าเพื่อเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ทั้งหมดมาลงเรือทองหลาง ซึ่งต้องใช้เครนขนาดใหญ่ยก จึงจำเป็นต้องยุติภารกิจการกู้ร่างผู้สูญหายและเดินทางกลับเข้าฝั่ง
ทยอยเผาศพเหยื่อเรือล่ม
วันเดียวกันได้มีการทยอยเผาศพเหยี่ยมผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือล่มอีก 7 ศพ หลังจากที่เมื่อวันอังคารมีการเผาไปแล้ว 5 ศพ และทางญาติแจ้งความประสงค์ขอฌาปนกิจอีก 10 ศพ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทะยอยไปเผาในวัดต่างๆ 9แห่ง ประกอบด้วย วัดเชิงทะเล,วัดเทพวนาราม,วัดศรีสุนทร,วัดลัฏฐิวนาราม,วัดมงคลวนาราม,วัดไชยธาราราม(วัดฉลอง),วัดพระทอง,วัดพระนางสร้างและวัดโฆษิตวิหาร
ดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้อง
พล.ต.ต.รี ธีระพงษ์ ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เผยว่า ได้ มีการบูรณการกำลังร่วมกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องจากส่วนกลาง ตรวจสอบบริษัทเรือทั้งสอง ค้นหาวัตถุพยาน เอกสารเพื่อหาข้อเท็จจริงว่าบริษัททั้งสอง มีการดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และดำเนินการให้บริการการท่องเที่ยวได้มาตรฐานหรือไม่หลังจากนี้จะส่งเอกสารทั้งหมดให้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเมื่อตรวจสอบแล้วเสร็จ ให้รายงานกลับมาให้เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนได้ใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี
ขณะนี้การสอบถามพยานยังคงดำเนินต่อไปเนื่องซึ่งเป็นความต้องการของรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีนเรื่องของการหาสาเหตุที่แน่จริงว่าเหตุการณ์สูญเสียดังกล่าวเกิดจากสภาพอากาศหรือไม่ อย่างไรก็ตามผู้ใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเอกชนหรือเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องดำเนินคดีอย่างแน่นอน ทั้งนี้การกระทำดังกล่าวต้องเป็นไปอย่างรอบคอบ
พานักท่องเที่ยวอีกชุดเข้าฝั่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางกรมเจ้าท่าจังหวัดภูเก็ต ได้รับแจ้งว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวน 33 คน ติดเกาะเนื่องจากคลื่นลมแรงไม่สามารถนำเรือทัวร์กลับเข้าฝั่งได้ ที่บริเวณอ่าวทือ เกาะราชาใหญ่ จึงได้ส่งเรือตรวจการณ์เจ้าท่า 1301 ออกปฏิบัติภาระกิจรับนักท่องเที่ยว ขึ้นบนเรือตรวจการณ์เจ้าท่า 1301 ซึ่งขณะนี้กำลังมุ่งหน้ากลับไปเทียบท่าเรือน้ำลึกจังหวัดภูเก็ต ซีสตา และพบว่าในช่วงนี้ทะเลยังมีคลื่นแรงความสูงคลื่นประมาณ 3 เมตร โดยทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการนำเรือกลับมายังที่หมาย จังหวัดภูเก็ต
ทะเลตรังคลั่งซัดเรือสินค้าล่ม
นายศิริพัฒ พัฒกุล ผวจ.ตรัง และคณะเปิดแถลงข่าว ว่า MV.NP Love Gistic2 ซึ่งเป็นเรือขนส่งสินค้าภายในตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกสินค้า เป็นไม้ยางพาราแปรรูป วิ่งออกจากท่าเรือ องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง ต.นาเกลือ อ.กันตัง จ.ตรัง ปลายทาง ท่าเรือพอต์กรัง มาเลเซีย ประสบอุบัติเหตุอับปางลง ในระหว่างที่เรือวิ่งออกจากท่ามาถึงบริเวณ เกาะหลาวเหลียง กับ เกาะตะเกียง ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง โดยขณะนั้นคลื่นมีความสูงถึง 5 เมตร
ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปช่วยชีวิตลูกเรือจนปลอดภัยทั้งหมด 11 ราย แต่ขณะนี้มีตู้คอนเทนเนอร์ 17 ตู้ ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่เป็นไม้ยางพาราและผลิตภัณฑ์จนลงในทะเล จะได้ทำการกู้ต้องไป และขอให้ทุกฝ่ายระมัดระวังในการเดินเรือ
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะเกิดเหตุกระแสคลื่นลมแรงยักษ์ความสูง 5 เมตร พัดซัดกระหน่ำเข้าหาเรืออย่างรวดเร็ว กัปตันไม่สามารถนำเรือหลบเกาะเพื่อกำบังลมได้ทัน ทำให้เรือโอนเอียงไปมานานกว่าครึ่งชั่วโมง ตู้สินค้าที่บรรทุกไม้ยางพาราแปรรูป ตกจากเรือลงสู่ท้องทะเลอย่างรวดเร็ว ตู้คอนเทนเนอร์บางตู้ฉีกขาดไม้ยางลอยเกลื่อนทะเล กาบเรือได้รับความเสียหาย
ฝนกระหน่ำเมืองคอน-กระบี่
ก่อนหน้านี้เมื่อค่ำวันที่ 10 กรกฎาคม ได้เกิดเหตุลมพายุฝนพัดกระหน่ำ หลายอำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช เฉพาะที่ที่บ้านปลายอวน หมู่ 5 ต.พรหมโลก อ.พรหมคีรี บ้านเรือนของประชาชนถูกพายุพัดเสียหายหลังคาปลิวว่อนกว่า 50 หลัง
ด้านที่ จ.กระบี่ เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาพนมเบญจามีปริมาณเพิ่มขึ้น ไหลเอ่อท่วมคลองน้ำตาย บ้านห้วยโต้ ม.4 ต.ทับปริก อ.เมืองกระบี่ และซัดสะพานทางเบี่ยง เส้นทางไปยังที่น้ำตกห้วยโต้ อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา จนได้รับความเสียหายบ่อยครั้ง รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้ ชาวบ้านหว่า 20 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน เจ้าหน้าที่อุทยาน นักท่องเที่ยว ต้องจอดรถทิ้งไว้และเดินลุยน้ำข้ามคลอง ไปมาด้วยความยากลำบาก ขณะที่เด็กนักเรียนต้องเดินลุยน้ำไปกลับโรงเรียน ซึ่งล่าสุดนายไพศาล ขุนศรี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ ได้ประสานทุกฝ่ายเข้าไปช่วยเหลือแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี