วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
รัฐบาลมีนโยบายในการพัฒนาภาคเกษตรกร สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยนำนวัตกรรม เทคโนโลยี และงานวิจัยที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้ เพื่อให้ประเทศพัฒนาก้าวเข้าสู่ Thailand 4.0 ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงทั้งสภาพภูมิอากาศ สภาพสังคม และทำให้ภาคการเกษตรของไทยจำเป็นต้องปรับตัว กรมส่งเสริมการเกษตร ในฐานะที่มีความใกล้ชิดเกษตรกร จึงเห็นความจำเป็นในการนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาประยุกต์ใช้ในภาคการเกษตร และกิจกรรมการเกษตรต่างๆ
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตรเป็นหน่วยงานที่ตั้งอยู่ทุกพื้นที่ของประเทศไทย มีเกษตรตำบล เป็นผู้ดูแลเกษตรกรในระดับพื้นที่ การนำเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ในงานส่งเสริมการเกษตรจึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งดังนั้นการร่วมมือและการทำงานแบบบูรณาการจึงเป็นสิ่งที่กรมส่งเสริมการเกษตรเอง ต้องมีเครือข่ายในการทำงาน โดยเฉพาะมหาวิทยาลัย มีคณาจารย์ และนักวิจัยหลากหลายสาขา ที่มีงานวิจัยและนวัตกรรมดีๆ มากมาย ที่สามารถร่วมกันพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับเกษตรกร จึงได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือด้านวิชาการ ระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตร ร่วมกับ 5 มหาวิทยาลัย ใน 4 ภูมิภาคของประเทศ โดยภาคกลาง ได้ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ภาคเหนือ ได้ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ภาคใต้ ได้ร่วมกับ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ทั้งหมดได้ทำความตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย เป็นกรอบการทำงานที่จะสานต่อเจตนารมณ์ เพื่อนำงานวิจัยไปสู่เกษตรกร หลังจากนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรจะได้ตั้งคณะทำงานเพื่อพัฒนางานวิจัยร่วมกันและถ่ายทอดงานวิจัยให้กับเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร เพื่อนำไปต่อยอดให้กับเกษตรกร โดยเน้นเป้าหมายเกษตรกรของแต่ละพื้นที่เป็นหลัก เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
การส่งเสริมการเกษตร ในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปในหลายมิติมาก ดังนั้นการพัฒนาองค์ความรู้ ล้วนแต่เป็นเรื่องสำคัญ การนำผลการวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ที่ได้ดำเนินการแล้วเสร็จไปใช้ประโยชน์ ในรูปแบบการเผยแพร่ต่อยอดองค์ความรู้ จะสามารถนำไปสู่การแก้ปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม ประยุกต์ใช้กับกลุ่มเป้าหมายจนก่อให้เกิดประโยชน์ได้จริงอย่างชัดเจน การที่ภาคการเกษตรจะพัฒนาไปสู่เป้าหมายไทยแลนด์ 4.0 จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อให้มีทั้งนวัตกรรม เทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถตอบโจทย์รัฐบาลในการนำองค์ความรู้จากผลงานวิจัยไปต่อยอด และการนำนวัตกรรม เทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ใหม่ พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ ไปสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ การสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ การแปรรูป การสร้างตราสินค้า การเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต และการลดต้นทุนการผลิต การสร้างอาชีพ และทางเลือกให้กับผู้ประกอบการ เกษตรกรหรือผู้ประกอบอาชีพอื่นๆ
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ซึ่งหลังจากการเดินทางไปร่วมลงนามกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็พบว่า ยังมีงานวิจัยหลายด้านที่เป็นประโยชน์สามารถสานต่อเพื่อนำไปสู่เกษตรกรได้ เช่น การผลิตสมุนไพรคุณภาพ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ การขยายผลการควบคุมศัตรูพืช โดยศูนย์วิจัยควบคุมศัตรูพืชโดยชีวินทรีย์แห่งชาติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น การผลิตพันธุ์สตอเบอร์รี่คุณภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่กรมส่งเสริมการเกษตร สามารถเข้าไปช่วยขยายผลได้ทันทีนับเป็นจุดเริ่มต้นที่สามารถต่อยอดให้เห็นถึงผลสำเร็จที่สามารถนำงานวิจัยไปขยายผลถึงเกษตรกรได้ทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี