27 ก.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยศูนย์ข่าวนคร 24 ชม. และสายตรวจนมเย็น ได้ร่วมกับชมรมออฟโรดจังหวัดนครศรีธรรมราช และกลุ่มบริษัทเดอะบีโฮม ออกแบบตกแต่งภายใน และร้านสุขแก้ว ค้าวัสดุก่อสร้าง ร่วมกันสร้างบ้านให้ น.ส.คนางค์ทิพย์ ทองดี หรือ “น้องมุข” อายุ 15 ปี ที่บ้านเลขที่ 175 หมู่ 6 ต ปากพูน อ เมือง จ นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเด็กยอดกตัญญูที่ดูแลแม่ที่เป็นอัมพฤกษ์นานกว่า 8 ปี จนแม่เสียชีวิตเมื่อ 2 เดือน ที่ผ่านมา โดยน้องมุข ต้องการจะเรียนต่อในระดับ ปวช. แต่เนื่องจากฐานะทางครอบครัวยากไร้ แม้แต่บ้านก็ไม่มีบานประตูหน้าต่าง น้องมุข จึงต้องไปขออาศัยนอนตามบ้านญาติ ๆ และนายวีระ ทองดี อายุ 41 ปี พ่อของน้องมุข ขอให้ออกมาทำงานหลังจบ ม. 3 จนกระทั่งสื่อมวลชนนำเสนอเรื่องราวของน้องมุข ทำให้มีผู้ใจบุญยื่นมือเข้ามาช่วยน้องมุขเป็นจำนวนมาก ขณะทีมงานเดอะบีโฮม และร้านสุขแก้วค้าวัสดุก่อสร้าง รับที่จะปรับปรุงซ่อมแซมสร้างบ้านให้น้องมุขจนเสร็จ เพื่อได้อยู่อาศัยอย่างปลอดภัย จึงได้กำหนดมอบบ้านให้ครอบครัวน้องมุขอย่างเป็นทางการในวันนี้ (27 ก.ค.) โดยมีนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานมอบ และมีภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมในพิธี อาทิ นายสมพงษ์ มากมณี นายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ตำรวจ ทหาร กำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งประชาชนทั่วไปร่วมในพิธี
โดยก่อนพิธีมอบบ้านผู้ว่า ฯ พร้อมด้วยนักฟุตบอลทีม “สายตรวจนมเย็น” ร่วมกันนำนมเย็นแจกจ่ายให้กับเด็กและเยาวชน รวมทั้งประชาชนที่มาร่วมในพิธี ทำให้บรรยากาศคึกคักเป็นพิเศษ ทั้งนี้สายตรวจนมเย็น เป็นสายตรวจที่ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดตั้งขึ้นเพื่อรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดให้เด็ก และเยาวชนกลุ่มเสี่ยงยาเสพติดหันมาดื่มนมเย็นแทนการมั่วสุมน้ำต้มพืชกระท่อม และยาเสพติดทุกชนิด รวมทั้งส่งเสริมให้เล่นกีฬาโดยเฉพาะกีฬาฟุตบอล
นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ใจบุญทุกคน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ร่วมด้วยช่วยกันในการซ่อมสร้างบ้านให้น้องมุข ถือสิ่งดีที่คนไทยไม่ทิ้งกัน ในส่วนของน้องมุข เองก็เป็นเด็กดี ยอดกตัญญูต่อพ่อแม่ และผู้มีพระคุณ จึงขอให้รักษาความดีนี้ตลอดไป พร้อมทั้งขอให้ตั้งใจเล่าเรียนหนังสือจนจบในระดับที่สูงสุดเท่าที่จะสามารถเรียนได้ พร้อมทั้งของให้อำเภอ ท้องถิ่น ได้เข้ามาดูแลด้วย เพราะครอบครัวของน้องมุข โดยเฉพาะตัวน้องมุข ถือเป็นเยาวชนตัวอย่างที่ดี ในการยึดมั่นในความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ โครงการนี้นับเป็นต้นแบบโครงการ “ร่วมกันทำความดีด้วยหัวใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน ” ซึ่งทางจังหวัดนครศรีธรรมราช กองทัพภาคที่ 4 จะสนับสนุนต่อยอดดำเนินการในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป
ด้านนายวีระ ทองดี อายุ 41 ปี และ น.ส.คนางค์ทิพย์ ทองดี หรือ “น้องมุข” อายุ 15 ปี สองพ่อลูก ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ให้ความช่วยเหลือครอบครัว ตนจะตอบแทนสังคมด้วยการเป็นคนดี ช่วยเหลือสังคมและผู้อื่นเท่าที่จะทำได้ สำหรับน้องมุข ก็จะตั้งใจเล่าเรียนหนังสือ และจะเป็นคนดีในสังคมตลอดไป
ขณะที่นายไพฑูรย์ อินทศิลา ประธานศูนย์ข่าวนคร 24 ชม. หัวหน้าสายตรวจนมเย็น สมาคมสื่อมวลชนจังหัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า การกำหนดมอบบ้านให้ครอบครัวน้องมุข วันนี้เพราะอยู่ในช่วงเทศกาลอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา และวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ซึ่งเป็นการทำความดี เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอีกด้วย สำหรับผู้ที่จะร่วมกิจกรรมในโครงการนี้ในครั้งต่อ ๆ ไป สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและแจ้งความประสงค์ในการช่วยเหลือผู้ยากไร้ได้ที่นายยุทธนา แต่งวงศ์ นายกสมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช โทร. 082-3333139 ,นายวัฒนา สินทะ กรรมการสมาคม ฯ โทร.081-9562701 และนายไพฑูรย์ อินทศิลา โทร. 081- 6761299.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี