วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
สั่งบูรณาการ12ทุ่งลุ่มเจ้าพระยา เตรียมพร้อมรับมือ‘น้ำหลาก’ บิ๊กฉัตรกำชับสทนช.เดินหน้า เพิ่มประสิทธิภาพจัดการน้ำ
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นประธานคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ติดตามสถานการณ์และการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ติดตามการเตรียมการป้องกันน้ำหลากในพื้นที่ลุ่มต่ำบางบาล บริเวณวัดบันไดช้าง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ตามแผนการบริหารจัดการน้ำในฤดูฝนปี 2561 ซึ่งได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการในด้านต่างๆ เช่น การจัดทำแผนการบริหารจัดการน้ำกำจัดสิ่งกีดขวางทางระบายน้ำ ซ่อมแซมอาคารควบคุมน้ำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เตรียมความพร้อมเครื่องจักรเครื่องมือในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม
ทั้งนี้พื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญด้านเศรษฐกิจและฐานการผลิตของประเทศ โดยในช่วงฤดูฝนปี 2560ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินการนำร่องปรับปฏิทินการปลูกข้าวในพื้นที่ลุ่มต่ำ 12 ทุ่ง ประมาณ 1.15 ล้านไร่ คือ ทุ่งเชียงราก จ.สิงห์บุรี ทุ่งฝั่งซ้ายคลองชัยนาท-ป่าสัก ทุ่งท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ทุ่งบางกุ่ม ทุ่งบางกุ้ง ทุ่งป่าโมก จ.อ่างทอง ทุ่งผักไห่ ทุ่งเจ้าเจ็ด ทุ่งพระยาบรรลือ ทุ่งโพธิ์พระยา ทุ่งบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และทุ่งรังสิตใต้ ให้เร็วกว่าปกติ เพื่อหลีกเลี่ยงผลผลิตได้รับความเสียหายจากน้ำหลาก และให้เป็นพื้นที่แก้มลิงธรรมชาติในการหน่วงน้ำ 1,500 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ช่วงปลายฤดูฝน
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการ สทนช. กล่าวต่อว่า การใช้พื้นที่ลุ่มต่ำทั้ง 12 ทุ่งให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั้น จำเป็นต้องมีเครื่องมือในการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งมีการวางแผนดำเนินโครงการสำคัญๆ เช่น โครงการประตูระบายน้ำปากคลองบางบาล พร้อมสร้างบันไดปลา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อใช้ในการบริหารจัดการน้ำหลากและเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง บรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา และเพิ่มศักยภาพในการใช้น้ำเพื่อเกษตรกรรมจำนวน 229,138 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางบาล อ.บางไทร อ.บางปะอิน อ.ผักไห่ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา และ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2563 ใช้งบทั้งสิ้นประมาณ 266.7 ล้านบาท ดำเนินการโดยกรมชลประทาน
ส่วนในพื้นที่ลุ่มต่ำอื่นๆ ได้มีการวางแผนบริหารจัดการน้ำโดยการใช้สิ่งปลูกสร้างที่มีอยู่และกำลังก่อสร้าง เช่น ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้วางแผนพร่องน้ำออกจากแก้มลิง 2 แห่ง เพื่อรอรับน้ำหลากที่จะไหลลงท่วมพื้นที่เกาะในตัวเมือง คือ แก้มลิงทุ่งมะขามหย่อง สามารถรองรับน้ำได้ 1.2 ล้าน ลบ.ม. และแก้มลิงทุ่งภูเขาทอง รองรับน้ำได้ 2.0 ล้าน ลบ.ม. พร้อมใช้ประตูระบายน้ำ 3 แห่ง ในการบริหารจัดการน้ำ คือ ประตูระบายน้ำหันตรา ประตูระบายน้ำข้าวเม่า และประตูระบายน้ำกระมัง นอกจากนี้ ยังใช้มาตรการไม่ใช้สิ่งปลูกสร้าง เช่น การกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำ การเตรียมเครื่องมือ เครื่องจักร เครื่องสูบน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ เป็นต้น รวมทั้งยังได้มีการวางแผนบริหารจัดการน้ำในเขื่อนสำคัญให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมและใช้ในการหน่วงน้ำ การวางแผนจัดจราจรทางน้ำ เพื่อให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ขณะเดียวกัน สทนช. ยังได้ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินโครงการศึกษาติดตามและประเมินผลการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ กลุ่มลุ่มน้ำเจ้าพระยาใหญ่ ครอบคลุม 8 ลุ่มน้ำหลักคือ ลุ่มน้ำปิง วัง ยมน่าน เจ้าพระยา ป่าสัก สะแกกรัง และท่าจีน พื้นที่รวม 99.12 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ป่า 47.10 ล้านไร่ พื้นที่การเกษตร 37.96 ล้านไร่เพื่อประเมินผลการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างเป็นรูปธรรม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี