พี่น้องชาว สปป.ลาว ที่ประสบกับภัยพิบัติจากเขื่อน เซเปียน- เซน้ำน้อย ในแขวงอัตตะปือ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของ สปป.ลาวแตก ผสมโรงกับฝนตกต่อเนื่องเป็นเวลานาน ส่งผลให้มวลน้ำมหาศาล ไหลทะลักพาดินโคลนท่วมบ้านเรือนราษฎร และพื้นที่เพาะปลูกได้รับความเสียหาย จนป่านนี้ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้ โดยเฉพาะมีผู้คนและสัตว์เลี้ยงเสียชีวิต และสูญหายจำนวนมาก ราษฎรไร้ที่อยู่อาศัยหลายพันครอบครัว
ยังมีภัยพิบัติเกิดขึ้นในประเทศต่างๆอีกมากมายในเวลานี้ จนทำให้หลายคนกังวลว่า หรือจะถึงเวลาที่ธรรมชาติจะเอาคืนจากชาวโลก ไม่ว่าจะเป็น คลื่นความร้อน และพายุรุนแรงที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่น ไฟป่าที่กรีซ และแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา อุทกภัยในอินเดีย จีน และพม่า รวมทั้งล่าสุด แผ่นดินไหวที่อินโดนีเซีย
ภัยพิบัติแต่ละแห่งก่อให้เกิดความเสียหายมากมาย สูญเสียชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก.....
ประเทศไทยเอง ก็ไม่เว้น เกิดดินถล่มฝังบ้านของชาวบ้าน ที่อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ส่งผลให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านดังกล่าวเสียชีวิตทั้งครอบครัวรวม 8 ราย ดินสไลด์ที่ทางขึ้นภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย บ้านเรือนเสียหายไปหลายหลัง ขณะเดียวกันหลายจังหวัดในภาคอีสานที่อยู่ริมแม่น้ำโขงก็เตรียมรับมือกับระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และอาจเอ่อล้นท่วมพื้นที่หลายจังหวัดได้
สำหรับพื้นที่จังหวัดอื่นๆ คงต้องเตรียมรับมือกับอุทกภัย และน้ำป่าไหลหลากจึงอยากให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศ และสถานการณ์เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น...เพื่อให้เกิดการสูญเสียน้อยที่สุด
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้อง แต่ถ้าเกิดอุทกภัยหรือภัยพิบัติใดๆ ขึ้นมาสักครั้ง ความเสียหายที่เกิดขึ้นมักจะเป็นพื้นที่การเกษตร และเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่ชดเชยเยียวยาก็ทำไป แต่ความเสียหายมีมากกว่านั้น การขาดแคลนผลผลิต การฟื้นฟูพื้นที่เสียหายกว่าจะกลับมาเหมือนเดิมต้องใช้เวลา และการลงทุนที่มากกว่าเงินชดเชยที่ได้รับมากมายนัก
คราวก่อนที่พูดถึงเรื่องเขื่อน และเห็นสภาพของ สปป.ลาวที่ได้รับความเสียหาย ทำให้ไม่อยากเห็นสภาพเช่นนั้นเกิดขึ้นอีก ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนในโลก.......จึงอดไม่ได้ที่จะขอพูดเรื่องเขื่อนอีกสักครั้ง
ประเทศไทยเองมีเขื่อนกระจายอยู่ทั่วประเทศมากกว่า 5,000 เขื่อน เป็นเขื่อนขนาดใหญ่และขนาดกลางมากกว่า 400 เขื่อน เขื่อนที่สำคัญๆ ที่มีการรายงานสถานภาพน้ำในเขื่อนมีอยู่ประมาณ 36 เขื่อน เป็นเขื่อนเพื่อการชลประทาน ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ
เคยมีการศึกษาจัดลำดับความเสี่ยงของเขื่อนในประเทศไทยต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหว ของ นิสิตปริญญาโท สาขาวิศวกรรมปฐพี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่นำเสนอในการประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติครั้งที่ 13 เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2551
ในรายงานผลการศึกษาดังกล่าว ระบุว่า เขื่อนทำหน้าที่เก็บกักน้ำไว้ใช้ในยามขาดแคลน และป้องกันน้ำท่วมในฤดูน้ำหลาก หากเขื่อนเกิดความเสียหายโดยเฉพาะจากแผ่นดินไหว นอกจากความสูญเสียทางเศรษฐกิจและขวัญกำลังใจของประชาชนแล้ว ความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของเขื่อนต่างๆ อาจลดลงด้วย
ปัจจัยความเสี่ยงที่ได้ทำการศึกษา มีหลายปัจจัย เช่น ความรุนแรงของแผ่นดินไหว ชนิดของเขื่อน อายุของเขื่อน ความสูงของเขื่อน ปริมาณกักเก็บน้ำ ระยะเวลานับแต่เกิดรอยร้าวจนถึงน้ำไหลออกได้สะดวก ระยะทางระหว่างตัวเขื่อนกับแหล่งชุมชนแรกที่อยู่ท้ายน้ำ และจำนวนประชากรแหล่งชุมชนแรกที่ได้รับผลกระทบ เป็นต้น
ในการศึกษามีวิธีการวิเคราะห์และคำนวณตามหลักวิชาการ ผลการศึกษาการจัดลำดับ พบว่า เขื่อนที่มีคะแนนความเสี่ยงสูงที่เกิดความเสียหายจากแผ่นดินไหวมากที่สุดคือ เขื่อน แม่มาว จังหวัดเชียงใหม่ รองลงมา คือ เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนท่าทุ่งนาจังหวัดกาญจนบุรี และเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล จังหวัดเชียงใหม่ ตามลำดับ
ผลการศึกษานี้ไม่ได้ต้องการให้ตื่นตระหนกแต่มีประโยชน์ที่จะทำให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ต้องเฝ้าระวัง และตรวจสอบ สภาพของเขื่อนอย่างใกล้ชิด มีแผนรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ประมาท.....
แว่นขยาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี