6 ส.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกระแสข่าวของเขื่อนอัตปือแตกที่ สปป.ลาว เนื่องจากฝนตกหนักในช่วงนี้ที่ผ่านมา ทำให้หลายๆ ภาคส่วนมีการตื่นตัวในเรื่องความปลอดภัยของอ่างเก็บน้ำ เขื่อนเพิ่มสูงขึ้นในเรื่องนี้ทำให้ชาวเลยเริ่มมีความรู่สึกกังวล หลังจากมีข่าวว่ามีการระบายน้ำจากอ่างน้ำเลยที่บ้านแก่งศรีภูมิ อ.ภูหลวง จ.เลย เกรงว่าน้ำเลยจะล้นตลิ่งและท่วมตัวเมืองเลยอีกหรือไม่

ล่าสุด วันนี้ 6 ส.ค.61 นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้ลงพื้นที่พร้อมสื่อมวลชนเพื่อรับฟังขอมูลจากผู้เกี่ยวข้องเจ้าหน้าที่กรมชลประทานที่มาทำกาลักน้ำเพื่อระบายน้ำออก หลังจากประตูน้ำที่อ่างเก็บน้ำเสียไป 1 บาน ซึ่งสามารถระบายน้ำได้ 1 บาน ซึ่งวันนี้ยังมีน้ำในอ่างอยู่ 101 เปอร์เซ็นต์ ยังถือว่าอยู่ในระดับสีแดง

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า การทำกาลักน้ำในอ่างน้ำเลย เป็นการระบายลงสู่แม่น้ำเลย ซึ่งจากเดิมที่มี 5 ท่อบวกกับประตูระบายน้ำ 700,000 ลูกบาศก์เมตร ก็สามารถระบายน้ำได้วันละ 1 ล้านกว่า เป้าหมายสูงสูด จะต้องมีระบายน้ำ 3 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งระดับที่ระบายนี้จะไม่ล้นตลิ่งของแม่น้ำเลยและจะระบายลงน้ำโขงได้อย่างดี เนื่องจากว่า แม่น้ำโขงที่เชียงคานเริ่มลดระดับลง ความมั่นคงของอ่างน้ำเลยอยู่ในสถานการณ์ที่มั่นใจมาก การระบายน้ำทำได้ดีมั่นใจว่า น้ำที่ระบายลงไปก็จะไม่ท่วมตัวเมืองเลยและไม่ท่วมอำเภอวังสะพุง  ตอนนี้ปริมาณน้ำจากลำน้ำสาขาที่ไหลลงน้ำเลยนั้นไม่มีแล้ว จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะระบายน้ำในช่วงนี้เพื่อพร่องน้ำเอาไว้ เผื่อมีพายุฝนลูกใหม่เข้ามา ซึ่งมีการตั้งเป้าไว้จะเก็บน้ำในอ่าง เอาไว้อย่างน้อย 70- 80เปอร์เชนต์

นายชัยวัฒน์  กล่าวต่ออีกว่า วันนี้อยากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในจังหวัดเลยอย่าได้กังวล การระบายน้ำออกจากอ่างน้ำเลย เราตั้งใจจะระบายจะระบายน้ำ ให้ได้ 3 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวันหากอ่างนั้นมีน้ำเข้าสูงสุด แต่มั่นใจว่าจะไม่ล้นตลิ่งแน่นอน สถิติปริมาณน้ำฝนที่ไหลเข้าอ่างสูงสุดคือ 3 ล้านลูกบาศก์เมตรเมื่อเข้ามา 3 ล้าน ก็ต้องระบายออกไป 3 ล้าน ระดับจะมั่นคงประกอบกับน้ำโขงที่เชียงคานก็ลดระดับลงเรื่อยๆฉะนั้นนำเลยก็จะไม่ล้นตลิ่ง ที่โชคดีอีกอย่างคือลำน้ำสาขาต่างๆที่ไหลลงแม่น้ำเลยแทบไม่มีเลย