7 ส.ค.61 เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วย นายมงคล คณานุช อายุ 48 ปี พนักขับรถห้องเย็นส่งสินค้าข้ามประเทศลาว และนายเอกลักษณ์ คณานุช อายุ 28 ปี พนักงานโรงงานคลังสินค้า 2 พ่อลูก เข้าพบ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น.หลังตกเป็นผู้ต้องหาคดีกรรโชกทรัพย์ และแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีหญิงสาวรายหนึ่งเข้ามาแจ้งความไว้ที่ สน.วังทองหลาง เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา พฤติการณ์ก่อเหตุนั้นผู้ร้องทุกข์อ้างว่าถูกชายฉกรรจ์ 6 คน อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่กักขังหน่วงเหนี่ยว ตั้งแต่เวลา 12.30 - 20.00 น.เพื่อข่มขู่รีดไถเอาเงินสด จำนวน 150,000 บาท
หลังถูกปล่อยตัวจึงได้เข้าแจ้งความ โดยจำรถของคนร้ายที่ก่อเหตุได้ เป็นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว ทะเบียนฎง 6718 กรุงเทพมหานคร ของนายเอกลักษณ์ ที่ถูกนำไปซ่อม ที่เต็นท์รถมือสองย่านธัญญบุรี หลังซื้อมาได้เกือบ 1 ปี ตรวจสอบล่าสุดรถดังกล่าวถูกยึดไว้เป็นของกลางที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ก่อนที่ทางพนักงานสอบสวนขออนุมัติศาลอาญา ออกหมายจับ เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา และถูกจับกุม เนื่องจากทางผู้เสียหายยืนยันว่า จำใบหน้าของนายเอกลักษณ์ และนายมงคล ผู้ก่อเหตุได้
โดย พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า ได้รับเรื่องดังกล่าวไปดำเนินการตรวจสอบ และสั่งการให้พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ดำเนินการตรวจสอบหลักฐานดังกล่าว ทั้งนี้ จะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ตามข้อเท็จจริงว่าฝ่ายใดถูกฝ่ายใดผิด
ด้าน นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้ได้เข้าพบทาง ผบช.น.เพื่อร้องเรียนคดีดังกล่าวเกิดจากตัวผู้เสียหาย กุเรื่องขึ้นมา และมีพฤติการณ์ค่อนข้างแปลก โดยมีหลักฐานที่ปรากฏคือ ผู้เสียหายกล่าวอ้างว่าอยู่กับนายเอกลักษณ์ และนายมงคล ตั้งแต่เวลา 12.30 - 20.00 น.วันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่พยานหลักฐานขณะเกิดเหตุ ภาพจากวงจรปิดปรากฏว่า นายมงคลอยู่ที่ จ.นครพนม ส่วนนายเอกลักษณ์ อยู่ระหว่างสแกนนิ้วมือเข้าทำงานที่โรงงานคลังสินค้า จ.พระนครศรีอยุธยา จึงไม่เป็นความจริงตามที่มีการกล่าวอ้าง
อย่างไรก็ตาม ทางนายเอกลักษณ์ และนายมงคล ไม่ได้ติดใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด แต่สงสัยว่าทางผู้เสียหายดังกล่าวน่าจะกุเรื่องขึ้นมากล่าวอ้าง ทั้งที่ขั้นตอนการชี้ตัวคนร้ายนั้น พ่อของหญิงสาวผู้เสียหายไม่ยอมเข้ามาชี้ตัว และไม่ยอมมาที่โรงพัก ส่วนกรณีรถที่ใช้กระทำความผิด เป็นลักษณะรถยนต์ที่ถูกสวมทะเบียนมา พยานหลักฐานดังกล่าวได้นำเข้าประกอบทางสำนวนคดีเรียบร้อยแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี