น้ำทะลัก‘แก่งกระจาน’

พีคสูงสุด10สค.

ท้ายเขื่อนส่ออาการอ่วม

บางจุดเริ่มท่วมมิดหลังคา

ริมฝั่ง5อำเภอเริ่มกระทบ

จับตาทะลักตัวเมือง12สค.

นายกฯลั่นรัฐบาลเอาอยู่

กรมชลเฝ้าระวังเขื่อนแก่งกระจานต่อเนื่อง หลังมีปริมาณน้ำไหลเข้าจนเกินความจุแล้ว 103% คาดขึ้นสูงสุด 10 สิงหาคม เร่งตัดน้ำเข้าคลองชลประทาน 4 สายลดปริมาณเข้าตัวเมืองน้อยที่สุด คาดถึงตัวเมืองเพชรฯ 12 สิงหาคม พื้นที่เหนือเขื่อนอ่วมหนัก บางจุดจมมิดหลังคา วอนหน่วยงานเข้าช่วยเหลือ เช่นเดียวกับพื้นที่ลุ่มริมฝั่ง 5 อำเภอเริ่มจม ด้านนายกฯตรวจพื้นที่ ย้ำมีมาตรการรับมือเต็มที่ เชื่อสถานการณ์ไม่หนัก ยันเอาอยู่

วันที่ 8 สิงหาคม โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี สำนักงานชลประทานที่ 14 ได้รายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนแก่งกระจานมีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็น 733.962 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือ 103.37% มีน้ำไหลลง 24.4515 ล้านลบ.ม.เปิดระบายน้ำ 194.69 ลบ.ม.ต่อวินาที หรือวันละ 16.8212 ล้านลบ.ม. ทำให้ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และจากการตรวจสอบระดับน้ำบริเวณทางระบายน้ำล้นหรือสปิลล์เวย์ พบระดับน้ำสูงกว่าสปีลเวย์เพิ่มขึ้นจาก 75 ซ.ม. เป็น 85 ซ.ม.

จับตาระดับน้ำพีคสูงสุด10ส.ค.

เวลา 08.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์บริหารจัดการน้ำที่เขื่อนแก่งกระจาน โดย นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน รายงานว่า จากฝนตกต่อเนื่องทำให้ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนแก่งกระจานจนล้น โดยคาดว่าจะมีปริมาณน้ำล้นสปิลเวย์สูงสุดในวันที่ 10 สิงหาคม ซึ่งตลอดสัปดาห์จนถึงปัจจุบัน กรมชลประทาน ยังเร่งระบายน้ำในอ่างโดยใช้วิธีดึงน้ำออกจากเขื่อนด้วยกาลักน้ำและสูบออกด้วยเครื่องสูบน้ำอัตรา 110 ลบ.ม.ต่อวินาที รวมปริมาณน้ำระบายท้ายเขื่อนแก่งกระจานสูงสุด 224 ลบ.ม.ต่อวินาที โดยปริมาณน้ำนี้จะส่งผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรีสอร์ท ร้านอาหารมีน้ำท่วมสูงประมาณ 10 ซม. เพราะเป็นพื้นที่ลาดชัน น้ำไม่ขังสูง

ไหลเข้าเขตตัวเมืองเพชรบุรี12ส.ค.

จากนั้นใช้เวลาอีก 15 ช.ม. น้ำที่ปล่อยจากเขื่อนแก่งกระจานจะไปถึงเขื่อนเพชร และมีน้ำจากป่าด้านข้างเข้ามาเพิ่มอีก 40 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้ปริมาณน้ำหน้าเขื่อนเพชรรวมเป็น 250 ลบ.ม.ต่อวินาที จะตัดยอดน้ำ 90 ลบ.ม.ต่อวินาที ใช้แนวคลองตามพระราชดำริ ซึ่งเป็นคลองชลประทานฝั่งซ้าย-ขวา 4 สายและคลอง D9 ที่กำลังขุดขยายลงอ่าวไทย ทำให้ลดน้ำเข้าตัวเมือง 160 ลบ.ม. และใช้เวลา 20 ชม.จะถึงตัวเมืองเพชรบุรี หรือไปถึงประมาณวันที่ 12 สิงหาคม

ยังยืนยันสถานการณ์ไม่ซ้ำรอยปี59-60

ทั้งนี้ ลำน้ำเพชรบุรีผ่านตัวเมืองมีช่วงแคบรับน้ำได้ 150 ลบ.ม.ต่อวินาที  จึงมีน้ำส่วนเกินท่วมล้นตลิ่งพื้นที่ลุ่มต่ำท่วมสูง 30-50 ซม. ส่วนอ.บ้านแหลม ระดับต่ำกว่าจะท่วมสูง 50-80 ซม. ซึ่งก่อนหน้านี้ เร่งพร่องน้ำในลำน้ำไว้แล้วและจะใช้เครื่องสูบน้ำสูบช่วยที่ลุ่มต่ำ พร้อมเครื่องผลักดันน้ำ เรือผลักดันน้ำรวม 44 เครื่อง ช่วงปากแม่น้ำเพชรบุรีผลักดันน้ำออกทะเลให้เร็วขึ้น จะลดปัญหาน้ำท่วมตัวเมืองเพชรบุรีให้เร็วที่สุด จะไม่ท่วมเหมือนปี 59-60 ซึ่งปี 59 ขณะนั้นมีน้ำไหลผ่านเขื่อนเพชร มากถึง 230 ลบ.ม.ต่อวินาที

ท่วมไม่เกินครึ่งเมตรไม่เกิน10วัน

ส่วนการบริหารจัดการน้ำเขื่อนเพชร คาดว่าจะมีน้ำไหลรวมหน้าเขื่อนสูงสุด 230–250 ลบ.ม. ต่อวินาที โดยจะหน่วงน้ำหน้าเขื่อนและตัดระบบชลประทานฝั่งซ้าย–ขวา รวม 55 ลบ.ม. ต่อวินาที และผันน้ำเข้าคลองระบายน้ำ D9 อัตรา 35 ลบ.ม. ต่อวินาที รวม 90 ลบ.ม. ต่อวินาที พร้อมทั้งระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเพชรในอัตรา 140–160 ลบ.ม. ต่อวินาที ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่าน อ.ท่ายาง อ.บ้านลาด โดยไม่มีผลกระทบ และเมื่อไหลผ่านเทศบาลเมืองเพชรบุรี จะทำให้มีน้ำเอ่อท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งและชุมชนสูงเฉลี่ย 30-50 เซนติเมตร ระยะเวลาท่วมขังไม่เกิน 10 วัน หากไม่มีปัจจัยอื่นมาเสริม

นายกฯสั่งเตรียมพร้อมแผนอพยพ

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้ทุกหน่วยงานทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง พร้อมแจ้งเตือนให้เตรียมรับมือ ทั้งแผนอพยพ การบริหารจัดการน้ำ และขอความร่วมมือสื่อมวลชนอย่านำเสนอข่าวเกินจริงจะทำให้ประชาชนวิตก ยืนยันรัฐบาลพร้อมรับมือ รวมทั้งสนับสนุนงบประมาณแก้ปัญหาระยะยาว นอกจากนี้ นายกฯยังชื่นชมการทำงานแก้ปัญหาของส่วนราชการ ทั้งส่วนท้องถิ่นและภูมิภาค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยขอให้เปิดเผยข้อเท็จจริงสถานการณ์น้ำ ประชาชนจะได้รับมือได้ทันสถานการณ์ ไม่ตื่นตระหนก และกำชับเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ดูแลประชาชนใกล้ชิด

ยืนยันไม่หนัก-รัฐบาลเอาอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายกฯไปตรวจบริเวณสันเขื่อนเพชรเพื่อดูการระบายน้ำ หลังจากที่ได้นั่งเฮลิคอปเตอร์ ตรวจดูสภาพน้ำจากด้านบนแล้ว ก่อนเดินทางไปติดตามความคืบหน้าการป้องกันอุทกภัยที่ประตูระบายน้ำคลอง D9 ที่ต.ปึกเตียน อ.ท่ายาง โดยนายกฯได้พบประชาชน และกล่าวว่า อุทกภัยมีทั้งพื้นที่ภาคอีสาน และภาคใต้หนักกว่านี้ เพราะในปลายฤดูฝนจะไปตกในภาคใต้ ที่ช่วงนี้น้ำมากเนื่องจากมรสุมเข้ามา อย่าตื่นตระหนกตามข่าว ขอให้ดูตามข้อเท็จจริง เพราะวันนี้หน่วยงานราชการได้พร่องน้ำไปแล้ว 42% จึงแก้ปัญหาได้ ยืนยันว่าสถานการณ์จะไม่หนัก เพราะเตรียมมาตรการไว้หมดแล้ว รัฐบาลมีมาตรการดูแลทั้งคน พืช สัตว์ และหากท่วมจริงคิดว่าคงจะท่วมไม่นาน ก็ขอให้เตรียมขนของไว้บนที่สูงด้วย

ชาวบ้านพุเข็มอ่วมจมมิดหลังคา

ผู้สื่อข่าวรายงานผลกระทบจากปริมาณน้ำที่ทะลักเข้าเขื่อนแก่งกระจาน จนต้องปล่อยลงแม่น้ำเพชรบุรี สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนหลายพื้นที่ ทั้งเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน อย่างที่หมู่บ้านพุเข็ม ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน ซึ่งเป็นพื้นที่เหนือเขื่อนแก่งกระจาน เดือดร้อนจากมวลน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือน โรงเลี้ยงสัตว์ ที่ปลูกอยู่พื้นที่ลุ่มริมเขื่อนแก่งกระจาน บางจุดน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ท่วมบ้านเกินกว่าครึ่งหลัง บางหลังเกือบมิดหลังคา มีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 30 หลังคาเรือน สอบถามชาวบ้านทราบว่า ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 7 สิงหาคม จนถึงเช้าวันนี้ น้ำเพิ่มขึ้นอีก 30 ซม. อยากให้หน่วยงานเข้าช่วยเหลือ สำหรับน้ำที่เข้าท่วมเป็นน้ำที่ลงมาจากบ้านโป่งลึก บางกลอย ซึ่งไหลมาเร็วมากและไม่คิดว่าจะมีระดับเพิ่มขนาดนี้ และยังคงเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ท่วมศูนย์บริการนทท.อทช.แก่งกระจาน

นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรีเผยว่า วันเดียวกันนี้ น้ำเอ่อมาถึงด้านหลังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานแล้ว สำหรับในส่วนอุทยานฯได้เตรียมความพร้อม โดยประสานเจ้าหน้าที่เตรียมเครื่องอุปโภค บริโภค พร้อมจัดรถยนต์ และรถกู้ภัยเตรียมเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยและจัดชุดเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำตลอดเวลา ซึ่งปริมาณน้ำยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

คนเมืองเพชรลุ้นเฝ้าดูระดับน้ำ

จากการตรวจสอบพื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำเพชรบุรีตั้งแต่ อ.แก่งกระจาน ยังต่ำกว่าตลิ่งเฉลี่ย 1.80 เมตร บริเวณอ.ท่ายาง ยังต่ำกว่าตลิ่ง 4.13 เมตร อ.บ้านลาดยังต่ำกว่าตลิ่ง 1.47เมตร และอ.เมืองเพชรบุรี ยังคงต่ำกว่าตลิ่ง 1.09 เมตร ทั้งนี้ในพื้นที่เขตเทศบาลอ.เมืองเพชรบุรี ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจ บริเวณท่าน้ำหลังจวนผู้ว่าราชการจังหวัด ระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรียังคงต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 1.09 เมตร มีประชาชนจำนวนมากมารอดติดตามสถานการณ์น้ำจำนวนมาก

ที่ลุ่มริมฝั่งแม่น้ำเพชรฯท่วมแล้ว50ซม.

อย่างไรก็ตาม จากการระบายน้ำของเขื่อนแก่งกระจานต่อเนื่อง เริ่มส่งผลกระทบในพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งแม่น้ำเพชรบุรีแล้ว โดยน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านประชาชน ที่บ้านใหม่ล่าง หมู่ 1 ต.บางครก อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เฉลี่ยสูงประมาณ 50 ซม. ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ขนของหนีน้ำไว้แล้ว เพราะติดตามข่าวที่จังหวัดแจ้งเตือน บางคนบอกว่า จุดนี้น้ำท่วมทุกปี และปีนี้น้ำมาเร็ว แต่ยังไม่สูงเท่าปี 2560 ที่วัดได้กว่า 1 เมตร

อุตุฯเตือนฝนหนักทั่วปท.8-9ส.ค.

ขณะที่นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาเรื่องคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ และฝนตกหนักบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 16 ระบุ ช่วงวันที่ 8-9 สิงหาคม ประเทศไทยจะมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้รวม 46 จังหวัด เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนเตรียมรับผลกระทบที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่งและดินโคลนถล่มไว้ด้วย บริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

คลื่น3เมตร!รร.เขาหลักปักธงแดง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศสภาพคลื่นลมแรงสูงกว่า 2-3 เมตร ที่ชายหาดนางทอง ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา แหล่งทองเที่ยวย่านเขาหลัก งโรงแรม รีสอร์ทต่างๆห้ามนักท่องเที่ยวลงไปเล่นน้ำทะเลหน้าหาดดังกล่าวเด็ดขาด โดยจัดชุดลาดตระเวนตามแนวชายหาด พร้อมติดธงแดงและป้ายเตือนตลอดแนว ขณะที่จังหวัดพังงาออกหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมความพร้อมด้านบุคลากรและอุปกรณ์ ให้พร้อม อีกทั้ง ให้แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ติดตามข่าวสารใกล้ชิด