ภัยมืด! ‘หมอธี’แฉขอตร.ติดตามเพิ่ม เหตุกฏใหม่ประเมินรร.ทำคนเสียผลประโยชน์เพียบ
10 ส.ค.61 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา(สกศ.) จัดสัมมนาเรื่อง “เปิดศักราชใหม่ในการประกันคุณภาพการศึกษา School –friendly QA : an innovation platform” โดยมี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) กล่าวเปิดงานตอนหนึ่ง ว่า วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ ในการประเมินคุณภาพการศึกษา รอบที่ 4 แบบใหม่นั้น ตนอยากย้ำให้ทุกคนทำความเข้าใจกับกฏกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ.2561 ซึ่งเพิ่งประกาศใช้อย่างเป็นทางการ โดยมีขั้นตอนการประกันคุณภาพเป็นไปเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาให้ง่ายขึ้น และไม่เป็นภาระกับครู แต่จะไปตกอยู่ที่ผู้บริหาร โดยตนจะให้เริ่มนำร่องใน 4,500 โรงเรียนประชารัฐก่อน เพราะมีความคุ้นเคยกับวิธีการประกันคุณภาพแบบใหม่อยู่แล้ว แต่หากโรงเรียนในสักกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.) หรือสังกัดใดพร้อม ก็แจ้ง สมศ.เข้าไปประเมินได้ทันที
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อว่า สำหรับวิธีการประเมิน โรงเรียนจะต้องเขียนประเมินตนเอง โดยผู้บริหารสถานศึกษาจะต้องพิจารณา และวิเคราะห์ว่าตัวเป็นสถานศึกษาในระดับใดจาก 5 ระดับ คือ ระดับพัฒนา ระดับปานกลาง ระดับดี ระดับดีเลิศ และระดับยอดเยี่ยม ซึ่งอาจพิจารณาจากกรอบความพร้อมของโรงเรียนขั้นพื้นฐาน เช่น จำนวนครูต่อจำนวนนักเรียน ความพร้อมของห้องเรียน และระบบอินเตอร์เน็ต ห้องสมุด เป็นต้น
จากนั้นจึงจัดทำแผนพัฒนาโรงเรียนแข่งกับตัวเอง เพื่อเลื่อนระดับตัวเองให้ดีขึ้น โดยดูผลความสำเร็จจากคุณภาพนักเรียน ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา การแก้ไขปัญหาความขาดแคลนในด้านต่างๆให้ดีขึ้น เพื่อส่งให้ต้นสังกัด เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)
อย่างไรก็ตาม หลักเกณฑ์การประเมินรูปแบบใหม่นี้ มหาวิทยาลัยต่างๆดำเนินการอยู่แล้ว ถ้ามหาวิทยาลัยใด ยังไม่มีรูปแบบการดำเนินการ ก็สามารถนำกรอบการประเมินของมหาวิทยาลัยในต่างประเทศมาเป็นต้นแบบเพื่อประเมิน โดยสถานศึกษาจะต้องออกแบบการประเมินตนเอง ตามบริบทและแนวทางการพัฒนาสถานศึกษาของตนเอง ซึ่งแต่ละแห่งจะมีโจทย์ และเป้าหมายต่างกัน ไม่ใช่ตัดเสื้อตัวเดียวสำหรับทุกคนอย่างที่ผ่านมา และตนย้ำต้นสังกัดไม่ให้ส่งแบบฟอร์มลงไปให้สถานศึกษา และการประเมินครั้งนี้จะไม่ใช่การจับผิด หรือลงไปตรวจสอบเหมือนที่ผ่านมา แต่จะเป็นการประเมินฉันท์มิตร โดย 3 ฝ่าย คือ ศธ. สมศ. และผู้ทรงคุณวุฒิที่จะลงพื้นที่ไปทำการประเมินเพื่อช่วยพัฒนาโรงเรียน
“การประเมินแบบใหม่จะให้สถานศึกษา จัดทำแผนการจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่มุ่งคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา และดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้ จึงเป็นการประเมินตามสภาพความเป็นจริงของสถานศึกษาเอง ในการประเมินทุกครั้งที่ผ่านมา จะมีคนอาสาเข้าติวให้ ที่ผ่านมาตรวจสอบแล้วมีกว่า 30 บริษัท และการประกาศกฏกระทรวงนี้ทำให้มีคนเสียประโยชน์หลายราย จนผมต้องมีตำรวจติดตามเพิ่ม ขอย้ำว่าการประเมินแบบใหม่ ไม่ต้องมีการติว ถ้าใครไปแอบอ้างว่าจะช่วยเหลือหรือติวให้ก็อย่าไปเชื่อ” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว
ด้านนายชัยพฤกษ์ เสรีรัตน์ เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวว่า กฏกระทรวงในเรื่องการประกันคุณภาพการศึกษา ที่ออกมาทำให้การทำงานมีความก้าวหน้าไปเรื่อยๆขบวนการทำงานของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(องค์การมหาชน)(สมศ.) ก็มีการปรับปรุงขบวนการทำงานต่างๆไปมาก ดังนั้น การเปิดศักราชใหม่ในการประกันคุณภาพการศึกษา หรือ School –friendly QA : an innovation platform การประเมินคุณภาพการศึกษาแบบใหม่ ผู้ประเมินจะเป็นมิตรกับสถานศึกษา แต่สถานศึกษาจะต้องทำความเข้าใจกับหลักเกณฑ์การประเมิน ให้สถานศึกษาเป็นตัวตั้ง และใช้กรอบมาตรฐานของสถานศึกษาเป็นตัววัดการพัฒนาตนเอง เมื่อ สมศ.เข้าประเมินก็จะดูว่าสถานศึกษานั้นพัฒนาไปตามเกณฑ์ของตัวเองหรือไม่ หากยังไม่ได้มาตรฐาน สมศ.ก็จะช่วยแนะนำพัฒนา การประเมินแบบใหม่นี้เพื่อให้สถานศึกษาได้มาตรฐาน ไม่ใช่ประเมินผ่านหรือไม่ผ่าน เน้นเชิงคุณภาพ มากกว่าปริมาณ ดังนั้น สถานศึกษาจะต้องปรับตัวแบบก้าวกระโดดและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามอัตภาพ
ขณะที่ รศ.ดร.ณมน จีรังสุวรรณ ผอ.สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(องค์การมหาชน)(สมศ.) กล่าวว่า สำหรับเกณฑ์การประเมินสถานศึกษาภายนอก รอบที่ 4 แบบใหม่นี้ ต่างจากเกณฑ์เดิมมาก เพื่อแก้ปัญหาต่างๆโดยการประเมินแบบใหม่นี้ผู้ประเมินจะเน้น คือ มาจาก 3 ส่วน คือ จาก สมศ. จากต้นสังกัด และจากผู้บริหารโรงเรียน เพื่อแก้ปัญหาไม่รู้บริบทของโรงเรียน หรือไม่เข้าใจนโยบาย สมศ. และการประเมินแนวใหม่นี้จะไม่ใช้การประเมินแบบผ่านหรือไม่ผ่าน แต่จะเมินเพื่อพัฒนา โดยการตรวจสอบว่าโรงเรียนประเมินตัวเองภายในผ่านหารือไม่ผ่าน ตามบริบทของโรงเรียน หรือตามกฏกระทรวงใหม่ โดยสถานศึกษาจะต้องออกแบบให้สมกับบริบทของโรงเรียน เพื่อให้โรงเรียนรู้จักตัวตนของตนเอง และรู้จุดอ่อนของตนเองด้วย เพื่อให้ได้มาตรฐานการศึกษาแต่ละระดับ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ สมศ.ได้มีหนังสือไปถึงโรงเรียนในทุกสักกัด และทุกระดับแล้ว และ สมศ.เองก็มีความพร้อมอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้น เมื่อโรงเรียนแจ้งมา สมศ.ก็พร้อมจะเข้าไปเริ่มประเมินได้ทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี