ส่องเกษตร : มาถูกทาง!บริหารจัดการน้ำ

ส่องเกษตร : มาถูกทาง!บริหารจัดการน้ำ

วันพุธ ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.

แม้หลายพื้นที่ประเทศไทยยังเผชิญปัญหาน้ำท่วมอยู่ แต่ดูเหมือนความรู้สึกวิตกกังวลที่เคยเกิดขึ้นอย่างรุนแรงนับตั้งแต่เกิดกรณี“เขื่อนแตก”ในลาว(เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย ซึ่งปรากฏภาพความน่ากลัวให้เห็นไปทั่วโลกผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ)...ตอนนี้สังคมก็คงเริ่มคลายวิตกกันลงมากแล้ว

ด้านหนึ่งคงต้องชมเชย“การบริหารจัดการน้ำ”ช่วงนี้ที่เรียกว่า“ทำได้ดี”เป็นที่เห็นได้ โดยเฉพาะกรณีเขื่อนแก่งกระจานที่ปริมาณน้ำเขื่อนสูงเกิน 100% ล้นสปิลเวย์ แถมมีฝนตกต่อเนื่อง จนกลายเป็นจุดโฟกัสที่สื่อต่างๆลงเกาะติดพื้นที่ รอนำเสนอภาพข่าวที่อาจเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ซ้ำรอยปี 2559-2560 อีก


แต่ในที่สุดผ่านพ้นช่วงเวลา“อันตราย”ไปแล้ว ก็ไม่ปรากฏภาพ“วิกฤตการณ์”เช่นนั้น แม้มีบางพื้นที่ท้ายเขื่อน หรือรีสอร์ท แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งเจอน้ำท่วมไปบ้าง ก็ไม่รุนแรงอะไรนัก

งานนี้ทำเอากรมชลประทานหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการ“รับมือ”สถานการณ์แก่งกระจาน เป็นปลื้มถึงกับโชว์เป็นผลงานชิ้นโบแดง โดยจัดทำ VTR ความสำเร็จในการบริหารจัดการน้ำเขื่อนแก่งกระจาน ลุ่มน้ำเพชรบุรี ช่วยปกป้องตัวเมืองเพชรบุรีให้รอดพ้นวิกฤตจากอุทกภัยได้

สรุปเนื้อหา VTR ว่า มีการวางแผนรับมือล่วงหน้าก่อนถึงฤดูฝนเดือนพ.ค.ได้ควบคุมอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในระดับเหมาะสม โดยเฉพาะลุ่มน้ำเพชรบุรี โดยถอดบทเรียนปี’59-60 ป้องกันเหตุการณ์อุทกภัยซ้ำรอย พร่องน้ำในลำน้ำ นำเครื่องจักร เครื่องมือไว้จุดเสี่ยง ขุดขยายคลอง RMC 3 เชื่อมคลอง D 9 เพิ่มศักยภาพในการระบายน้ำสู่ทะเลได้รวดเร็วขึ้น

ส่วนสถานการณ์ที่น้ำเกินความจุอ่างแก่งกระจาน มาจากฝนตกหนักบริเวณเทือกเขาตะนาวศรี ทำให้วันที่ 20 ก.ค.มีน้ำไหลเข้าเขื่อนมากถึง 160 ล้าน ลบ.ม.ก็เร่งระบายต่อเนื่อง โดยติดตั้งกาลักน้ำ,เครื่องสูบน้ำ เร่งระบายผ่านช่องทางปกติและสปิลเวย์ ทั้งผันน้ำส่วนหนึ่งเข้าระบบชลประทานใช้คลอง D 9 และควบคุมปริมาณน้ำเขื่อนเพชรในลุ่มน้ำเพชร ไม่ให้เข้าตัวเมืองไปกระทบพื้นที่เศรษฐกิจ

ซึ่งการระบายน้ำเขื่อนแก่งกระจานผ่านจุดสูงสุดไปแล้วในเกณฑ์ 210 ลบ.ม.ต่อวินาทีเมื่อ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยตัดยอดน้ำที่เขื่อนเพชรฯด้วยระบบชลประทานและคลองระบาย D 9 จนไม่ส่งผลต่อ อ.ท่ายาง,อ.บ้านลาด ส่วน อ.เมือง ควบคุมไม่ให้ส่งผลกระทบพื้นที่เศรษฐกิจ มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 30 เครื่อง ในชุมชน เครื่องผลักดันน้ำ 20 ลำ เตรียมรถบรรทุก รถตัก ประจำพื้นที่เพื่อขุดเปิดทางน้ำ ฯลฯ

สำหรับกรมชลประทานนี่คือ ผลงานชิ้นโบแดงที่โชว์ได้ ส่วนรัฐบาล ผมเชื่อว่าลึกๆก็คงอยากโชว์ภาพรวมว่า นี่คือ ผลงานรัฐบาลในการบูรณาการจัดการปัญหา“น้ำ” หลังจากที่ใช้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จัดตั้งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) ชื่อภาษาอังกฤษ Office of the National Water Resources (ONWR)หรือเดิมคือ“สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ”ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อทำหน้าที่บูรณาการจัดการเรื่องน้ำทั้งหมด

ผลงานครั้งนี้ที่ประเดิมความสำเร็จ จึงสามารถนำไปคุยต่อได้ว่า ดำเนินการมา“ถูกทาง”ยิ่งกว่ารัฐบาลใดๆ ที่ผ่านมา...แต่ก็อย่าเพิ่งย่ามใจ เพราะเรื่อง“น้ำ”เรื่องใหญ่ ยังต้องใช้เวลาพิสูจน์อีกเยอะ

ขอทิ้งท้ายด้วยข้อคิดเห็นอดีตอธิบดีกรมชลประทาน“ปราโมทย์ ไม้กลัด”ผู้ได้ชื่อว่า รอบรู้เรื่องน้ำดีที่สุดคนหนึ่งของไทย แม้ปัจจุบันอยู่ในวัย 78 ปีแล้วก็ตาม ท่านได้บอกกล่าวก่อนหน้านี้ช่วงที่คนกำลังกลัว“เขื่อนไทย”จะ“แตก”ซ้ำรอย“เขื่อนลาว”อย่างน่าสนใจดังนี้

“ผมเกาะติดเรื่องเขื่อนทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลางอย่างใกล้ชิดตลอด ขอเรียนว่าเราทั้งหลายอย่ากังวลหรือเป็นห่วงเรื่องความมั่นคงแข็งแรงแต่อย่างใดเลย เพราะเขื่อนหลายแห่งที่กำลังเก็บกักน้ำถึงระดับน้ำเก็บกักนั้น ผมมีส่วนเกี่ยวข้องในอดีตทุกแห่งก็ว่าได้ รู้ดีถึงมาตรฐานการก่อสร้างว่ามีความชัดเจนเกินร้อย แทบทุกแห่งผ่านร้อนผ่านหนาว มีน้ำล้นอาคารระบายน้ำล้นมาหลายครั้งหลายคราวแล้ว ในอดีตก็มากกว่าที่กำลังจะเกิดในปีนี้ด้วยซ้ำ แล้วเราจะกังวลมากมายด้วยเรื่องอะไรกัน

ปริมาณน้ำที่ล้นสูงเหนือระดับสันอาคารระบายน้ำล้นนี่แหละ คือเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำกำลังทำหน้าที่บรรเทาอุทกภัยพื้นที่ท้ายเขื่อนตามเป้าหมายที่เราสร้างขึ้นมา ผมว่า เขื่อนทุกแห่งกำลังทำหน้าที่ตามทีผู้ออกแบบเขากำหนด ไม่มีความวิปริตใดๆเลย เขื่อนหลายแห่งที่น้ำกำลังจะล้นอาคารระบายน้ำล้น อายุของเขื่อน 40 กว่าปี ถึง 50 กว่าปี แล้วจะห่วงอะไรกับความแข็งแรง เขื่อนดินถมบดอัดแน่น ยิ่งเก่ายิ่งดี อย่าไปเปรียบเทียบกับที่ประเทศเพื่อนบ้านนั้น ถ้าทำไม่ถูกต้องแล้ว จะพังให้เห็นในปีแรกๆ เลย ขอให้ข้อมูลในฐานะที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้มาตลอดชีวิตการทำราชการ”

อ่านความเห็นท่านแล้ว เชื่อว่า คงมั่นใจเขื่อนไทยได้มากขึ้นเยอะเลย

สาโรช บุญแสง

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top