วันนี้่ (14 ส.ค.) น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า จากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดูแลจัดการปัญหาการใช้ แอมเฟตามีน ของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน ในเวทีการประชุมวิชาการสุขภาพจิตนานาชาติ ประจำปี 2561 มีการศึกษาที่บ่งชี้และยืนยันว่าการใช้สารเสพติดมีผลต่ออัตราการเกิดปัญหาด้านจิตเวช และการใช้สารเสพติดส่งผลกระทบต่อเศรษฐานะทางสังคมและมีคนจำนวนมาก ที่ยังต้องการความช่วยเหลือ
ขณะเดียวกันมีข้อมูลตรงกันว่าร้อยละ 70-80 ของผู้ติดยาเสพติดในประเทศแถบนี้ ติดยาเสพติดประเภทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า, บางประเทศยังคงมีปัญหารุนแรงในเรื่องการติดเชื้อ HIV จากการใช้ยาเสพติดแบบฉีดเข้าเส้นเลือด บางประเทศยังไม่มีโปรแกรมฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดที่เหมาะสมเพราะติดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย และบางประเทศยังมีโครงสร้างทางสังคมที่ไม่เอื้อ ต่อการรักษาและฟื้นฟู สารเสพติด
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อแว่า ส่วนด้านการป้องกันแก้ไขปัญหามีหลากหลายแนวทางในแต่ละประเทศ เช่น การปรับทัศนคติให้มองปัญหาติดยา คือปัญหาด้านสุขภาพมากกว่าด้านกฎหมายเพื่อลดการเป็นตราบาป, การจัดตั้งหน่วยคัดกรองให้การดูแลและรักษาผู้ใช้ยาเสพติดแบบองค์รวม เพื่อวินิจฉัยโรคร่วมกับการติดยาเสพติด เช่น HIV, โรคตับอักเสบ, โรคติดเชื้อทาง เพศสัมพันธ์, การพัฒนาความร่วมมือระหว่างองค์กรภาครัฐ เอกชน และ NGO เป็นต้น
ด้านการติดตาม ดูแล ช่วยเหลือผู้ติดยาเสพติด ให้ความสำคัญกับการดูแลด้านจิตใจ และการช่วยเหลือเบื้องต้นร่วมกับครอบครัว และทุกประเทศมีแนวโน้มการดูแล ช่วยเหลือผู้ติดยาเสพติดไปในแนวทางเดียวกันคือการให้ชุมชนเข้ามามีบทบาทในดูแลผู้ป่วยติดยาเสพติดให้มากขึ้น
สำหรับสถานการณ์และการดูแลผู้ติดสารเสพติดในประเทศไทยนั้น อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่าปัจจุบันมีผู้ติดสารเสพในประเทศประมาณ 3 แสนคน ช่วงที่มีการติดยาเสพติดสูงที่สุดคืออายุ 18-24 ปี คิดเป็นร้อยละ30 ส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ75ใช้สารแอมเฟตามีนและโดยที่ปัญหาการใช้สารเสพติดก่อให้เกิดความเจ็บป่วยทางจิตเวช กรมสุขภาพจิตได้ดำเนินการเพื่อลดความรุนแรงที่เกิดจากการใช้สารเสพติด โดยจัดอบรมอาสาสมัคร ให้ความรู้เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต มีสายด่วน 1669 สำหรับแจ้งเหตุหากพบผู้ป่วยจิตเวช ฉุกเฉิน
"สำหรับประเทศไทยกำหนดเป้าหมายในปี ค.ศ.2018 ให้การหาย ไม่กลับเป็นซ้ำในผู้ป่วยจิตเวชกลุ่มติดสารเสพติดในระยะ 3 เดือนต้องมากกว่า ร้อยละ 90 โดยกำหนดให้มีการติดตามการรักษาแบบผู้ป่วยในทุก 2 เดือน และผู้ป่วยนอกอีก 2 เดือน ตลอดจนมีการเปลี่ยนจากการดูแลในโรงพยาบาลเป็นอาศัยการดูแลจากชุมชนเป็นหลัก"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี