14 ส.ค.61 เมื่อเวลา 09.30 น. นายเอ(นามสมมุติ) ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ศรีทะนนท์ เรือนมูล ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ และ พ.ต.ท.สิทธินันท์ สิทธิกำจร รอง.ผกก. 4 กองบังคับการ ปคม. เพื่อนำข้อมูลรวมทั้งภาพและคลิป ที่นายเอ อ้างว่าเป็นภาพของตนขณะมีเพศสัมพันธ์กับแฟนสาว หลังเปิดห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งมีการตัดต่อและเผยแพร่ทางทวิตเตอร์ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น   

พ.ต.อ.ศรีทะนนท์ เรือนมูล ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ได้รับข้อมูลจากผู้เสียหายแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนในรายละเอียดรวมทั้งตรวจสอบภาพและคลิปที่ผู้เสียหายอ้างว่าเผยแพร่อยู่ในทวิตเตอร์ ภายหลังที่มีการเผยแพร่ข่าวออกไปเจ้าของรีสอร์ทดังกล่าว เดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่ารีสอร์ทไม่ได้มีการติดตั้งกล้องแอบถ่ายภายในห้องพักแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้คลิปดังกล่าวต้องให้เจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการตรวจสอบว่าเป็นการถ่ายจากห้องหรือสถานที่ที่ใด

ด้าน พ.ต.ท.สิทธินันท์ สิทธิกำจร รอง.ผกก.4 กองบังคับการ ปคม. กล่าวว่า หลังทราบข่าวกรณีนี้ตนและทีมงานได้ลงมาตรวจสอบหาหลักฐานว่า จากในคลิปมีสิ่งใดที่บ่งบอกว่าเป็นตัวผู้เสียหายจริง  จากการสอบสวนเบื้องต้นยังไม่สามารถชี้ชัดได้เนื่องจากดูจากหน้าจอโทรศัพท์ของผู้เสียหาย ซึ่งดูไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้ดึงข้อมูลจากโทรศัพท์ของผู้เสียหายไม่ว่าจะเป็นภาพที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างว่าเป็นตัวเอง แฟน รวมทั้งเสียง เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับใครบ้าง 

รอง.ผกก.4 กองบังคับการ ปคม. กล่าวต่ออีกว่า หากมีการยืนยันว่าภาพไหนเกี่ยวข้องกับใคร สถานที่ไหนบ้าง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เตรียมพร้อมทั้งจะเรียกตัวนำมาสอบสวน หรือตรวจสอบสถานที่ที่เกี่ยวข้อง เมื่อตรวจจากสายตาแล้วมีความชัดเจนก็จะดำเนินการในทันที แต่ถ้าหากไม่ชัดเจนคงต้องรับคดีไว้และนำไปตรวจสอบรายละเอียดจากภาพอีกครั้ง   

ล่าสุด ยังไม่สามารถระบุความผิดอะไรได้เพราะตัวของผู้เสียหายยังไม่แสดงเจตนาไปมากกว่าที่การนำภาพมาให้ตรวจสอบว่า ตนเองได้รับความเสียหาย และยังไม่ระบุถึงตัวบุคคลว่าเป็นใครกันแน่ แต่ถ้าตรวจสอบแล้วเป็นบุคคลไหน ผู้เสียหายสามารถเอาผิดกับทางโรงแรมได้ เพราะมีการติดกล้องแอบถ่ายในสถานที่นั้น ส่วนผู้แอบถ่ายก็มีความผิดฐานนำภาพลามกเข้าคอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท และอาจเข้าข่ายความผิดการค้ามนุษย์ด้วยเนื่องจากเป็นการนำคลิปมาขาย รวมถึงสมาชิกในกลุ่มไลน์ลับก็จะมีความผิดเช่นกัน ฐานสนับสนุนนำภาพลามกเข้าคอมพิวเตอร์ อีกทั้งจะต้องตรวจสอบหารายละเอียดที่ชัดเจนอีกครั้ง

รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าของรีสอร์ท บอกว่า ระหว่างเกิดเรื่องตนเดินทางไปพักผ่อนต่างจังหวัด จู่ๆมีชายคนหนึ่งโทรศัพท์มาหา บอกว่า รู้จักกันเลยมาใช้บริการที่รีสอร์ท พร้อมกล่าวหาว่ารีสอร์ตแอบบันทึกภาพลูกค้าที่เข้าพักและมีคลิปหลุดออกไป นาทีนั้นคิดว่า เป็นมิจฉาชีพหลอกเรียกเงิน เพื่อแลกกับชื่อเสียงของรีสอร์ทก่อนจะกลายเป็นข่าว จึงเข้าไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยยืนยันว่าทางรีสอร์ตไม่ได้ติดกล้องวงจรปิดและพร้อมให้ตำรวจเข้าตรวจสอบ

ส่วนข้อสงสัยว่าอาจเป็นพนักงานรีสอร์ทแอบทำนั้น ไม่น่าเป็นไปได้เพราะส่วนใหญ่เป็นคนสูงอายุที่ไม่ค่อยทันเทคโนโลยี และทำงานด้วยกันมานานไว้ใจกันได้ หลังจากนี้จะรอฝั่งผู้เสียหายไปแจ้งความ เพื่อจะได้ขอดูคลิปที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นที่รีสอร์ทของตนจริงหรือไม่ ก่อนจะพิจารณาแจ้งความกลับ เพราะทำให้ชื่อเสียงทั้งของตนเองและของรีสอร์ทเสียหาย