14 ส.ค.61 ร.ต.อ.โรมรัน ศรีไกรภักดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์และพยายามจะขืนใจหญิงสาว เหตุเกิดภายในหมู่บ้านจอมเทียนการ์เด้นวิลเลจ หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงาน พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ ให้ทราบเรื่อง ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักชั้นเดียว ปลูกสร้างอย่างหรูหราบนเนื้อที่กว่า 118 ตรว.และมีรั้วรอบขอบชิด ภายในบ้านพบ น.ส.นงเยาว์ อายุ 46 ปี เจ้าของบ้าน ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ พร้อมกับให้การว่า บ้านหลังนี้ตนกับสามีชาวต่างชาติร่วมกันซื้ออยู่อาศัยมาหลายปีแล้ว ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. ตนได้ออกไปทำธุระนอกบ้าน ปล่อยให้ลูกสาวที่เกิดกับสามีคนที่ 2 วัย 18 ปี เฝ้าบ้านอยู่กับลูกชายคนโตที่เกิดกับสามีคนแรก วัย 29 ปี และเพื่อนรุ่นพี่ของลูกชายคนโต ที่มาขออยู่อาศัยด้วยในช่วงระหว่างที่มาทำงานตอกเสาเข็มที่เมืองพัทยา
น.ส.นงเยาว์ ยังให้การอีกว่า ปกติแล้วลูกสาวตนพักอยู่กรุงเทพฯ นานๆ ทีจึงจะกลับมาพักที่บ้านหลังนี้ ส่วนนายมาโนชญ ลูกชายคนโต ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชายต่างบิดา กับนายอรรถพล เพิ่งมาขอพักอยู่ด้วยเมื่อไม่กี่วันมานี้ เพราะมีงานตอกเสาเข็มที่เมืองพัทยา โดยในระหว่างตนทำธุระอยู่นอกบ้านอยู่นั้น จู่ๆ ลูกชายคนโต โทรศัพท์มาบอกว่าน้องสาวต่างบิดาถูกโจรจับมัดและใช้กาวหยอดที่ตาจนได้รับบาดเจ็บ ตนเลยรีบกลับมาบ้านและพบลูกสาวอยู่ในสภาพร่ำไห้เพราะยังตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังตั้งสติได้จึงเล่าให้ฟังว่า ขณะนอนหลับอยู่ในบ้านจู่ๆ มีคนร้ายเป็นชายไทย 1 คน รูปร่างสูง ใส่เสื้อยืดไม่ทราบสี นุ่งกางเกงขาสามส่วน สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้าคล้ายคนงานก่อสร้าง บุกเข้ามาในบ้านก่อนใช้มือปิดปากบังคับไม่ให้ลูกสาวขัดขืน ก่อนต่อยเข้าทีท้อง 1 ครั้ง แล้วใช้เสื้อชั้นในของลูกสาวมัดมือ และใช้สายชาร์จโทรศัพท์มือถือมัดเท้า จากนั้นจึงใช้กาวตราช้างที่เตรียมมาหยอดที่ตาขวาจนลืมตาไม่ขึ้นและรู้สึกปวดแสบปวดร้อน กระทั่งคนร้ายทำท่าว่าจะลงมือข่มขืน ลูกสาวจึงยกมือไหว้อ้อนวอนขอร้องไม่ให้โจรขืนใจ และบอกว่าอยากได้ทรัพย์สินอะไรก็ให้เอาไป คนร้ายเกิดเปลี่ยนใจหันไปคว้าเอาโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน 7 พลัส ก่อนหลบหนีไป ต่อมาลูกสาวแก้มัดได้ด้วยตัวเอง จึงออกมาขอความช่วยเหลือและพบพี่ชายต่างบิดา ที่ขับรถ จยย.กลับจากซื้อของพอดี จึงโทรศัพท์แจ้งให้ตนทราบ ซึ่งหลังจากลูกสาวเล่าเรื่องราวให้ฟัง จึงขอให้เพื่อนช่วยนำตัวส่งรักษาที่ รพ.กรุงเทพพัทยา และยังทราบว่าตาจะบอดหรือได้รับอันตรายใดๆ หรือไม่
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดไม่พบคนนอกเข้ามาพบเพียงพี่ชายต่างพ่อของผู้เสียหายเดินไปมา แล้วเดินไปที่ห้องเก็บของข้างบ้านจุดที่พบกาวตราช้างที่ใช้หยอดตา นอกจากนี้ยังพบว่าที่มือข้างซ้ายของพี่ชายยังพบคราบเหมือนคราบกาวที่แห้ง ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าตัวปฏิเสธว่าไม่ใช่คนก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบสวน เบื้องต้นตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย นอกจากนั้นยังควบคุมตัวชายวัย 39 ปี เพื่อนคนงานที่มาอาศัยนอนไปสอบสวนเพราะตรวจพบสารเสพติดในร่างกายเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี