19 ส.ค.61 จากกรณีเหตุเพลิงไหม้อาคารร้านค้าล็อก บี ในตลาดโกลด์เด้นเกต หรือตลาดเทศบาล 3 ติดทิศใต้ตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตั้งแต่เมื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 18 ส.ค.61 และ จนท.สามารถควบคุมเพลิงไว้ในวงจำกัดได้เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.นั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น. พ.ต.อ.เสกสรร วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว และ พ.ต.ท.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผกก.(สส)สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ได้นำ จนท.กองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เดินทางเข้ามาตรวจพื้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ บริเวณอาคารล็อก บี ตลาดเทศบาล3 โดยมี กำลัง จนท.ทหารจาก มทบ.19 และ กองร้อยทหารพรานที่ 1201 เข้าร่วมสังเกตการณ์และร่วมตรวจสอบ ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบของ จนท.พบว่าบริเวณพื้นที่เพลิงไหม้ยังคงมีควันไฟครุกลุ่นลอยขึ้นมาตลอดเวลา ทำให้ จนท.กองพิสูจน์หลักฐานไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบหาหลักฐานได้ ทำให้ จนท.ต้องให้รถแบ็คโฮ ตักคุ้ยกองเศษวัสดุที่เกิดเพลิงไหม้แล้วให้รถน้ำและรถดับเพลิงฉีดน้ำเพื่อไม่ให้เพลิงครุขึ้นมาได้อีก แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้บริเวณจุดเพลิงไหม้ไฟดับลง 100เปอร์เซ็นต์ได้ ยังคงต้องให้รถน้ำและรถดับเพลิงฉีดน้ำเลี้ยงเพื่อให้น้ำลงไปดับไฟที่ยังคงครุอยู่ใต้กองเศษวัสดุภายในอาคารที่เกิดเพลิงไหม้
เบื้องต้น จนท.ได้ตรวจสอบพบว่าอาคารล็อกบี ตลาดเทศบาล3 ที่ถูกเพลิงไหม้ เป็นอาคารร้านค้า จำนวน 8 คูหา แต่แบ่งเป็นร้านค้าย่อยที่พ่อค้า แม่ค้าชาวเขมรเช่าต่อกันมามีประมาณ 20 ร้านค้า ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าจำหน่ายอุปกรณ์ประดับยนต์ ซึ่งเป็นร้านต้นเพลิง ร้านจำหน่ายรองเท้า และเสื้อผ้า พร้อมสินค้าเบ็ดเตล็ด และร้านค้าส่วนใหญ่ซึ่งเป็นของชาวกัมพูชาจะมีการเก็บตุนสินค้าไว้ภายในร้านจำนวนมากจึงทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้จึงทำให้ลุกลามเร็ว จน จนท.ต้องใช้รถแบ็คโฮ มาทำลายกำแพงอาคารร้านค้าเพื่อสกัดไม่ให้เพลิงลุกลามมากกว่านี้
อย่างไรก็ตาม จนท.อยู่ระหว่างการตรวจสอบเรียกตัวเจ้าของร้านต้นเพลิงและร้านค้าที่ถูกเพลิงไหม้มาสอบสวน แต่เนื่องจากร้านค้าส่วนใหญ่เป็นชาวเขมรทำให้ตามตัวมาสอบปากคำยากเนื่องจากบางคนกลับไปฝั่งกัมพูชาแล้ว จึงต้องประสานญาติพี่น้องให้ไปตามมาให้ปากคำ เพื่อตรวจสอบและประเมินความเสียหายทั้งหมด ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าความเสียหายหลายสิบล้านบาท
ทั้งนี้ จนท.ยังไม่สามารถระบุสาเหตุเพลิงไหม้ได้ต้องรอ จนท.พิสูจน์หลักฐาน สรุปเสียก่อนเพียงแต่สันนิษฐานว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากมีพยานชาวเขมรบอกว่าได้เกิดไฟลุกไหม้บริเวณแผงปลั๊กไฟด้านหลังร้านจำหน่ายอุปกรณ์ประดับยนต์ แล้วลุกลามติดอุปกรณ์ประดับยนต์จนควบคุมไม่ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี