แม่ทัพภาค2 ลุยตรวจ‘คำชะโนด’ พบติดหล่มขอใช้ที่ดินสาธารณะประโยชน์
22 ส.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ว่า พล.ท.ธรากร ธรรมวินธร แม่ทัพภาคที่ 2(มทภ.2) เดินทางมาติดตามความคืบหน้าการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหา “คำชะโนด” อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี โดยมีนายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัด(ผวจ.) อุดรธานี , พล.ต.กนก ภูม่วง ผบ.มทบ.24 นำนายวีระวัฒน์ วงษ์ศรีรักษา นายอำเภอบ้านดุง , ผู้นำองค์กรปกครองท้องถิ่น และคณะกรรมการบริหารคำชะโนด รายงานผลการดำเนินงาน ในห้องประชุมอาคารเอนกประสงค์คำชะโนด
ที่ประชุมรายงานว่า “คำชะโนด” ทางราชการเริ่มเข้ามาจัดระเบียบจริงจัง เมื่อเดือนมีนาคม 2560 หลังจากช่วงปลายปีมีประชาชนจากทั่วประเทศ เดินทางมาสักการะ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์จำนวนมาก และมีข้อร้องเรียนปัญหาใน 2 กลุ่ม คือ ด้านสิ่งแวดล้อม แหล่งน้ำธรรมชาติ , ต้นชะโนด , ขยะ และน้ำเสีย และด้านการจัดระเบียบ เรื่องสถานที่สักการะ สถานที่โดยรอบ และผู้ประกอบการค้า-บริการ โดยทั้งหมดมีความคืบหน้าไปมาก ล่าสุดคือการนำกรรมการฯ , ผู้นำท้องถิ่น และผู้ประกอบการค้า เข้าค่ายฝึกอบรมแนวทางปฏิบัติ ในกรอบของกฎหมายเดียวกัน
นายวีระวัฒน์ วงษ์ศรีรักษา นายอำเภอบ้านดุง ชี้แจงแผนงาน “การขอใช้พื้นที่สาธารณะประโยชน์” 80 ไร่ ในส่วนของพื้นที่ใช้สอย และพื้นที่ของที่พักสงฆ์ จากพื้นที่ทั้งหมด 400 ไร่ โดยดำเนินการรังวัดกำหนดแนวเขตแล้ว มีกำหนดจะทำประชาคมพื้นที่ต้นเดือนกันยายนนี้ จากนั้นจึงจะขอความเห็นขอบจาก สภา อบต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง โดยได้ทำความเข้าใจเบื้องต้นแล้ว เพื่อให้พื้นที่ใช้สอยมานานจนถึงปัจจุบันมีกฎหมายรองรับ เข้าสู่แผนการพัฒนาในยั่งยืนได้
จากนั้น พล.ท.ธรากร พร้อมคณะ เดินทางเข้าสักการะ “เจ้าปู่ศรีสุทโธและเจ้าย่าศรีปทุมมา” ภายในเกาะคำชะโนด เพื่อเป็นสิริมงคล และตรวจสภาพพื้นที่จัดระเบียบ ตั้งแต่ทางเดินเข้าไปยัง “ต้นมะเดื่อยักษ์” พื้นที่แสวงโชคผู้มาเยือน ได้รื้อพื้นคอนกรีตออก นำเอาสะพานไม้แบบยุคแรกมาใส่แทน , พื้นที่ร้านค้าเดิมที่ทรุดโทรมถูกย้ายออก ปรับปรุงเป็นสนามหญ้าลานกิจกรรม และบริเวณร้านค้าย้ายมาสร้างใหม่ มีความเป็นระเบียบมากขึ้น โดยทักทายสอบถามผู้ประกอบการ และประชาชนที่เดินทางมา ต่างพอใจในการจัดระเบียบ พร้อมพื้นที่ลานจอดรถ ห้องสุขา และศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
พล.ท.ธรากร กล่าวว่า มาติดตามการทำงานของ จ.อุดรธานี และมณฑลทหารบกที่ 24 ซึ่งเป็นหน่วยในพื้นที่ ได้ร่วมกับพื้นที่จัดระเบียบ “คำชะโนด” ทั้งในการป้องกันและแก้ไขปัญหา ด้านสิ่งแวดล้อมของต้นชะโนด หรือระดับน้ำมาก-น้อย เพื่ออนุรักษ์ต้นชะโนดให้คงอยู่ หรือด้านการสิ่งสาธารณูปโภค การปรับภูมิทัศน์ ได้รับยการพัฒนาในทางที่ดี ล่าสุดเรื่องอบรมจิตใจของคนในพื้นที่ ในฐานะที่เราเป็นเจ้าบ้าน ต้องมีจิตใจเมตตา มีคุณธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบ ผู้คนที่เดินทางมาจากทั่วประเทศ และต่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการขอใช้ที่ดินสาธารณะประโยชน์ที่คำชะโนด ที่ยังไม่สามารถดำเนินการขอใช้พื้นที่ได้ ที่อาจจะทำให้การพัฒนาและจัดระเบียบคำชะโนดล่าช้า พล.ท.ธรากร กล่าวว่า เรื่องที่ดินเป็นเรื่องสำคัญ เพราะที่ดินทุกแห่งมีเจ้าของหมด อยู่ที่ผู้ใช้ว่าเราจะใช้อย่างถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมาย ที่ดินตรงนี้เป็นที่ดินสาธารณะประโยชน์ ถ้าจะใช้ถูกกฎหมายก็ต้องมีขั้นตอนในการขอใช้ ซึ่งก็ต้องไปขอใช้พื้นที่ ซึ่งต้องมีมติประชาคมชาวบ้านเห็นชอบแล้ว จึงเพิกถอนจากที่ดินสาธารณะประโยชน์ เพื่อที่จะให้เป็นที่ราชพัสดุ ขึ้นกับกรมธนารักษ์ ขั้นตอนเหล่านี้ก็ต้องมีกระบวนการ ทีนี้ก็จะต้องดำเนินการในท้องถิ่น และพื้นที่ ซึ่งจะต้องมาทำประชาคมให้กับชาวบ้านด้วย เพราะที่ตรงนี้จะต้องเป็นจุดท่องเที่ยว และก็ต้องมีพระสงฆ์ด้วยก็ต้องมาบริหารจัดการกันให้ดี
“เรื่องนี้ผมจะสั่งการให้ทหารลงมาดูแลพื้นที่นี้ด้วย แต่ก็อยากให้ชาวบ้านให้อยู่แบบพึ่งตนเอง หรืออยู่ที่การปกครองกันเอง เพราะสุดท้ายแล้วชุมชนก็ต้องอยู่ให้ได้ด้วยตัวของชุมชน และก็พึ่งตนเอง และพึ่งกันเอง ซึ่งก็อาจจะเป็นระบบสหกรณ์ในอนาคตที่ทุกคนจะต้องเคารพกฎ กติกา ทั้งผู้มาเยือน และผู้ที่เป็นเจ้าภาพให้เป็นลักษณะแบบนี้ ซึ่งก็ฝากให้ผู้ว่าฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยดูเรื่องที่ดิน ถ้าหากติดขัดอย่างไรก็ให้ประสานมาทางกองทัพ ที่จะเข้ามาช่วยดูในเรื่องนี้ให้เดินหน้าได้ต่อไป” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี