ปัดรับเงิน7ล้าน
‘แม่สปาย’โต้‘เสี่ยอ้วน’
ท้าเปิดบัญชีพิสูจน์ได้เลย
ชี้ลูกไม่แต่งเพราะขี้หึงจัด
“แม่น้องสปาย” โต้รับเงิน 7 ล้าน จาก “เสี่ยอ้วน” ท้าเปิดบัญชีธนาคารตรวจสอบได้เลย ยันรับแค่ 1 ล้าน ส่วนบ้านที่อยู่อาศัยมาจากน้ำพักน้ำแรงครอบครัว ระบุเหตุที่ลูกสาวไม่แต่งงานด้วย เพราะขี้หึงรุนแรง ด้านเพื่อนเสี่ยปืนโหด ชี้มีการโอนเงินให้จริง เท่าที่เห็นกว่า 4ล้าน แต่เชื่อมีมากกว่านี้
จากกรณีที่ นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ เสี่ยอ้วน อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีสังหาร น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือสปาย อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือฟอส อายุ 20 ปี เสียชีวิต บริเวณลานจอดรถฝั่งตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ยืนยันว่าได้โอนเงินให้ทางครอบครัวน้องสปายเป็นเงินจำนวน 7 ล้านบาท และมีหลักฐานเป็นสลิปการโอนเงินครบถ้วน รวมทั้งมีข่าวว่าได้เตรียมปรึกษาทนายความเพื่อฟ้องร้องเอาเงินคืนนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม นางวันเพ็ญ นาเมืองรักษ์ แม่น้องสปาย ได้กล่าวย้ำว่า ทางครอบครัว ได้รับการโอนเงินจากเสี่ยอ้วนจริง เป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาทจริง โดยได้นำไปซื้อรถ และใช้ในงานศพของน้องสปาย โดยบัญชีธนาคารของครอบครัว มีจำนวน 3 ธนาคาร คือ 1.บัญชีธนาคาร ธ.ก.ส.ของตน 2.บัญชีธนาคารธนชาติ ของพ่อน้องสปาย และ 3.บัญชีธนาคารธนชาติ ของน้องสปาย ที่เปิดได้เพียง 1 เดือนแล้วก็ถูกยิงเสียชีวิต ยังคงมีเงินจำนวน 300,000 บาท ทั้งหมดสามารถตรวจสอบได้ที่พนักงานสอบสวน และคงจะไปพิสูจน์กันในชั้นศาลต่อไปว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
นางวันเพ็ญ กล่าวต่อว่า สำหรับบ้านหลังที่อาศัยอยู่ปัจจุบันนี้ ก็สร้างด้วยน้ำพักน้ำแรงของครอบครัวไม่ได้เป็นอย่างที่เสี่ยอ้วนอ้างแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุที่น้องสปายไม่ยอมแต่งงานกับเสี่ยอ้วนนั้น เป็นเพราะเสี่ยอ้วนมีอารมณ์และพฤติกรรมหึงหวงรุนแรง
ด้าน นายธรรมรัตน์ สุวรรณโพธิศรี หรือ โจ้ สปอตไลท์ ผู้ก่อตั้งเพจ Spotlight Phuket เพื่อนสนิทของเสี่ยอ้วน กล่าวถึงเงิน 7 ล้านบาท ที่เสี่ยอ้วนพยายามทวงคืนว่า ขณะนี้มีข้อมูลสลิปเงินที่เสี่ยอ้วนโอนให้น้องสปายและครอบครัว เท่าที่เห็นหลักฐานด้วยตาจำนวนเงินมีแค่ 4.5 ล้านบาท แต่เชื่อว่ามีมากกว่านี้ แล้วทางทนายน่าจะมีหลักฐานอะไรมากกว่าที่มีอยู่ โดยทั้งตัวเสี่ยอ้วนกับน้องสปาย แน่ชัดว่าเป็นแฟนกัน ส่วนจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องไปคิดเอาเอง ที่ไม่อยากพูด เพราะต้องการจะให้เกียรติคนตาย อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีโอนเงินไปทั้งหมด 4 ล้านกว่าบาท เสี่ยอ้วนได้แอบเก็บหลักฐานทุกอย่างไว้ในเฟซบุ๊กของตนเอง แต่ตั้งค่าสถานะไว้เป็นส่วนตัว จึงไม่มีใครเห็น แม้แต่ น้องสปาย
นายธรรมรัตย์ กล่าวต่อว่า สำหรับหลักฐานสลิปโอนเงินมีทั้งหมด 6 ใบ ได้แก่ ใบที่ 1 โอนไปจำนวน 7 แสนบาท ใบที่ 2 โอนจำนวน 1 แสนบาท ใบที่ 3 โอนจำนวน 1 ล้านบาท ใบที่ 4 โอนจำนวน 1.12 แสนบาท ใบที่ 5 โอนจำนวน 1 แสนบาท และใบที่ 6 โอนจำนวน 5 หมื่นบาท
ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวจากตำรวจชุดสืบสวนว่า เสี่ยอ้วนให้การรับสารภาพแบบหมดเปลือกว่า วันนั้นต้องผลัดเปลี่ยนปืนถึง 3 กระบอก เพื่อยิงน้องสปายกับน้องฟอส โดยเชื่อว่าเป็นความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ซึ่งตอนนั้นไม่ทราบว่าก่อเหตุยิงคนหน้าพระ แต่แปลกใจที่ยิงปืนเท่าไหร่กระสุนก็ไม่ออก จึงต้องเปลี่ยนปืนจากลูกน้อง 2 คน ก็ยังไม่ออกอยู่ดี เนื่องจากเจอปัญหาปืนขัดลำกล้อง กระสุนด้าน ต้องใช้เวลาอยู่นานหลายนาทีกว่าจะยิงสำเร็จ
ด้าน นางจอมศรี ชมพูพื้น แม่ของน้องฟอส ได้ชี้แจงถึงการให้สัมภาษณ์ด้วยคำพูดที่ว่า “อยู่ไผ่ อยู่มัน” ว่า หมายถึงต่างคนต่างอยู่แยกย้ายกันทำมาหากิน ไม่ใช่ตัดขาดกัน ไม่ได้หมายถึงว่า ระหว่างครอบครัวของตน กับ ครอบครัวน้องสปาย จะตัดขาดกัน แต่หมายถึงว่า หลังเกิดเหตุแล้ว ต่อไปก็คงต่างตนต่างอยู่ เพราะต้องแยกย้ายกันไปทำมาหากิน ยังคงยืนยันว่า เด็กทั้งสองคนเติบโตมาด้วยกัน และระหว่างทั้งสองครอบครัวก็มีความผูกพันกันเป็นญาติสนิทที่อยู่ร่วมกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ ยืนยันว่าแปลความหมายกันผิดไปเอง และต่อไปตนจะไม่พูดเรื่องนี้อีก
“กรณีนี้ขอให้เป็นตัวอย่างของลูกหลาน คนอีสานหรือทั่วไปที่ต้องดิ้นรนทำงาน ก็ขอให้ผู้มีอันจะกินเป็นเศรษฐกิจ เจ้าของกิจการ ได้สงสารคนจน ลูกชาวนา ที่เข้าไปดิ้นรนหาเงินกลับมาจุนเจือครอบครัว ให้มีความเมตตาปราณี และก็ขอให้ลูกหลานได้ดูกรณีนี้เป็นตัวอย่างว่าหากผิดพลาดไปอยู่กับเจ้านายใจร้ายก็ต้องให้ระวังเพราะอาจจะมาจบชีวิตแบบนี้” นางจอมศรี กล่าว
ขณะที่ นายสุพิน จริตรัมย์ พ่อน้องฟอส ได้ออกมาพูดคุยกับสื่อเป็นครั้งแรกโดยบอกว่าสาเหตุที่ไม่พูดก็เพราะรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด และตั้งแต่รู้ข่าวตนเองซึ่งเป็นคนคิดมากอยู่แล้วและกินยาจิตเวช ก็ล้มไปชักบนพื้นดินหน้าบ้านและได้ไปกัดลิ้นของตัวเองเกือบขาด โดยได้แสดงบาดแผลให้กับสื่อมวลชนดูด้วย จากนั้นก็ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้กับครอบครัว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี