ชาวคลองเฮ! "มท.2" ลุยมอบบ้านใหม่คืนความชุมชนคนลาดพร้าว 31 ครัวเรือน เร่งเดินหน้าจัดระเบียบป้องบุกรุก-น้ำท่วม ขีดเส้นปี62แล้วเสร็จ
26 ส.ค.61 ที่ชุมชนริมคลองลาดพร้าวประชาอุทิศ เขตห้วยขวาง กทม. นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานจัดกิจกรรม On Ground : คืนความสุขให้คนคลอง คืนสายคลองให้คนเมือง เพื่อสร้างการรับรู้ สร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน และมอบทะเบียนบ้านให้กับชุมชนริมคลองลาดพร้าวประชาอุทิศ และชุมชนหลังสมาคมโรงเรียนไทย - ญี่ปุ่น จำนวน 31 หลัง โดยมีผู้เข้าร่วม ประกอบด้วย พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ , นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร , นายสมชาติ ภาระสุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ฝ่ายทหารและตำรวจ
ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวอยู่ภายใต้โครงการจัดระเบียบชุมชนริมคลองลาดพร้าว โครงการก่อสร้างเขื่อน คสล.และประตูระบายน้ำคลองลาดพร้าว โดยภายในงานได้มีกิจกรรมพาสื่อมวลชนล่องเรือติดตามความคืบหน้าโครงการ การชมบูธกิจกรรม การรับฟังความคิดเห็น นิทรรศการ และการจัดจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัดจากกรมการค้าภายใน และการออกหน่วยเคลื่อนที่ของสำนักงานเขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร และได้มีกิจกรรมเล่าสู่กันฟัง "วิถีชีวิตชาวชุมชนคลองลาดพร้าว กับการพัฒนาลำคลองลาดพร้าว"
รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับชาวชุมชนริมคลองลาดพร้าวประชาอุทิศ ชุมชนหลังสมาคมโรงเรียน ไทย - ญี่ปุ่น ที่ได้รับมอบบ้าน ซึ่งจะได้มีที่อยู่อาศัยมั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และถือเป็นตัวอย่างให้ชุมชนอื่นได้เห็นความก้าวหน้า ตนขอเน้นย้ำให้สร้างความเชื่อมั่นต่อนโยบายการแก้ไขปัญหาด้วยการสานพลังประชารัฐ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมให้การช่วยเหลือชุมชนที่เข้าร่วมโครงการในการพัฒนาการประกอบอาชีพ การดูแลสุขภาพอนามัย และการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของชุมชน มุ่งขับเคลื่อนงานเพื่อให้ชุมชนเข้มแข็ง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
สำหรับโครงการจัดระเบียบชุมชนริมคลองลาดพร้าว โครงการก่อสร้างเขื่อน คสล.และประตูระบายน้ำคลองลาดพร้าว เป็นนโยบายของรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกแนวเขตคลองสาธารณะ อันเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาคุณภาพชีวิต รวมทั้งปัญหาน้ำท่วมเนื่องจากไม่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำโดยรอบคลองสำคัญ 9 แห่งในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ คลองบางซื่อ คลองบางเขน คลองลาดพร้าวและคลองสอง คลองเปรมประชากร คลองพระยาราชมนตรี คลองสามวา คลองลาดบัวขาว คลองประเวศบุรีรมย์ และคลองพระโขนง มีหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานครดำเนินการแก้ไขปัญหาการบุกรุกลำน้ำสาธารณะ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินการกำหนดมาตรการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดและการสร้างที่อยู่อาศัยรุกล้ำแนวลำคลองและทางระบายน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาคุณภาพชีวิต และปัญหาสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ คลองลาดพร้าวถือเป็นคลองระบายน้ำสายหลักที่รองรับการระบายน้ำในพื้นที่ 8 เขต ได้แก่ เขตสายไหม เขตดอนเมือง เขตหลักสี่ เขตจตุจักร เขตบางเขน เขตห้วยขวาง เขตลาดพร้าว และเขตวังทองหลาง และด้วยเป็นคลองที่เชื่อมต่อระหว่างคลองหกวาสายล่างกับคลองแสนแสบ ซึ่งมีอุโมงค์ยักษ์พระรามเก้า - รามคำแหง ทำให้เป็นคลองที่มีศักยภาพสูงเมื่อได้รับการพัฒนา
ขณะที่ความคืบหน้าโครงการจัดระเบียบชุมชนริมคลองลาดพร้าว การพัฒนาที่อยู่อาศัย ในพื้นที่เขตห้วยขวาง ได้ดำเนินการใน 13 ชุมชน 1,454 ครัวเรือน ซึ่งชุมชนริมคลองลาดพร้าวประชาอุทิศ มีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 106 ครัวเรือน ขณะนี้ได้ก่อสร้างบ้านสามารถเข้าอยู่อาศัยแล้ว 11 หลังคาเรือน และอยู่ระหว่างการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ 47 ครัวเรือน และชุมชนหลังสมาคมโรงเรียน ไทย - ญี่ปุ่น เข้าร่วมโครงการ 74 ครัวเรือน ได้ก่อสร้างบ้านสามารถเข้าอยู่อาศัยแล้ว 20 หลังคาเรือน ซึ่งทั้ง 2 โครงการ กำหนดจะเดินหน้าก่อสร้างให้ครบภายในปี 2562 โครงการก่อสร้างเขื่อน คสล.ความยาวรวม 45.3 กิโลเมตร ได้มีการส่งมอบพื้นที่แล้ว รวม 22.39 กิโลเมตร และดำเนินการตอกเสาเข็มได้ 18.19 กิโลเมตร ความคืบหน้าทั้งโครงการคิดเป็น 33.27 เปอร์เซ็นต์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี