จากรณีที่เพจ CSI LA ได้หยิบยกข่าวจาก "เดลี่เมล์" กรณีสาวอังกฤษ วัย 19 ปี ที่เดินทางมาท่องเที่ยวกับเพื่อนที่หาดทรายรี เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ถูกวางยาจนไม่รู้สึกตัวและข่มขืน หลังจากที่นั่งดื่มที่บาร์แห่งหนึ่ง ซึ่งเหตุเกิดใกล้กับจุดที่นักท่องเที่ยวอังกฤษ นายเดวิด มิลเลอร์ และ ฮันนาห์ วิเทอร์ริดจ์ ที่ถูกฆ่าข่มขืนเมื่อปี 2557
พร้อมอ้างว่า ตัวเธอพยายามจะแจ้งความเรื่องนี้กับตำรวจเกาะพะงัน แต่ตำรวจก็ไม่บันทึกข้อมูลว่าเธอถูกข่มขืน แค่ลงว่าโทรศัพท์ไอโฟน 7 กับเงินสด 3,000 บาท หาย เธอขอร้องให้ตำรวจดูกล้องวงจรปิดที่บาร์ แต่ตำรวจก็อ้างว่ากล้องวงจรปิดเสีย และทางตำรวจไทยก็พยายามปิดข่าวนี้ให้เงียบ เธอจึงเอาเรื่องทั้งหมดไปแจ้งกับตำรวจอังกฤษ จนกลายเป็นประเด็นอื้อฉาวในโลกโซเชียล
26 ส.ค.61 พ.ต.อ.สถิตย์ คงเนียม ผกก.สภ.เกาะพะงัน เปิดเผยว่า ในวันดังกล่าว แหม่มสาวอังกฤษผู้เสียหายได้มาแจ้งความพร้อมกับเพื่อนชาย โดยแจ้งกับพนักงานสอบสวนว่ามีทรัพย์สินหายที่เกาะเต่า ทางพนักงานสอบสวนก็บอกกับแหม่มสาว ว่า ต้องไปแจ้งความในท้องที่เกิดเหตุ คือ สภ.เกาะเต่า แต่นักท่องเที่ยวไม่ประสงค์จะเดินทางกลับไปที่เกาะเต่า และบอกว่าต้องการเอกสารเพื่อไปยื่นเครมประกันของหายไว้กับบริษัทประกัน
"ทางพนักงานสอบสวนจึงได้อำนวยความสะดวกลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานให้ และในช่วงที่มาแจ้งความนั้น ผู้เสียหายก็ไม่ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยว่าถูกข่มขืนแต่อย่างใด" พ.ต.อ.สถิตย์ กล่าว
ด้าน นายเกริกไกร สงธานี นายอำเภอเกาะพะงัน กล่าวว่า เรื่องนี้ตนเองได้ประสานไปยัง สภ.เกาะพะงัน ที่รับแจ้งความจากนักท่องเที่ยวสาวรายนี้ พบว่านักท่องเที่ยวสาวรายนี้ไม่ได้แจ้งว่าตัวเองถูกข่มขืนแต่อย่างใด แจ้งแต่เพียงว่าโทรศัพท์มือถือหายเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้บึกทึกไว้ พร้อมให้สำเนาแก่นักท่องเที่ยวสาวรายนี้เพื่อนำไปเครมกับบริษัทประกันภัย
ส่วนการที่นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษได้ให้ข่าวที่ประเทศอังกฤษว่าตัวเองถูกข่มขืนที่เกาะเต่า ทำให้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเกาะเต่า และประเทศไทยอย่างมาก เรื่องนี้อำเภอเกาะพะงัน จะได้ประสานไปยังสถานทูตประเทศอังกฤษประจำประเทศไทย เพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียด พร้อมจะประสานให้นักท่องเที่ยวสาวรายนี้ ถ้าเป็นผู้เสียหายจากการถูกข่มขืนจริง ขอให้กลับมาประเทศไทย ตนเองจะให้ความเป็นธรรม
แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะเต่า เผยว่า จากการตรวจสอบวันเวลาที่นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษรายนี้แจ้งไว้ที่ สภ.เกาะพะงัน ก็ไม่มีนักท่องเที่ยวมาแจ้งความในเรื่องดังกล่าว จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะเต่า ต้องออกสอบถามหาข้อมูล แต่ก็ไม่สามารถหาหลักฐานที่นักท่องเที่ยวสาวรายนี้กล่าวอ้างมาได้ ประกอบกับนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษรายนี้ได้กลับประเทศไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ความเป็นธรรมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะเต่า ได้จัดชุดสืบสวนออกหาข่าวอย่างละเอียดในขณะนี้ตามที่นักท่องเที่ยวสาวรายนี้อ้าง ซึ่งที่ผ่านมาพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวบางรายเมื่อใช้เงินท่องเที่ยวหมดก็จะมาแจ้งความว่าทรัพย์สินของตัวเองที่นำติดตัวมาด้วยหาย เจ้าหน้าที่ก็จะรับแจ้งความพร้อมบันทึก จากนั้นนักท่องเที่ยวจะนำใบบันทึกประจำวันไปเครมประกันเพื่อรับการชดเชยเป็นเงิน
นอกจากนี้ จากการสอบถามนักทอ่งเที่ยวยุโรปที่พักอาศัยบนเกาะเต่าได้ให้ข้อมูลว่า การประกันชีวิตของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวจะมีการครอบคลุมไปถึงการถูกทำร้ายร่างกายทุกกรณี ซึ่งบางบริษัทอาจรวมถึงการถูกล่วงละเมิดทางเพศด้วย จึงทำให้เรื่องนี้แปลกกว่าเหตุที่เกิดขึ้นบนเกาะเต่าที่ผ่านมา ที่เจ้าทุกข์จะอยู่บนเกาะเต่า หรืออยู่ในประเทศไทยเพื่อร้องขอความเป็นธรรม แต่กรณีนี้นักท่องเที่ยวสาวได้กลับประเทศไปแล้ว แต่มาให้ข่าวในลักษณะแบบนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี