5เหตุผลจาก‘ยะใส’!! จี้ทบทวนร่างกม.ลงโทษหนักลืมพก-ไม่มีใบขับขี่
28 ส.ค.61 นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ค แสดงความเห็นเกี่ยวกับการปรับแก้กฎหมายจราจร ระบุว่า “5 เหตุผล ที่ควรทบทวนและประชาพิจารณ์ ร่าง กม.เพิ่มโทษใบขับขี่ 10,000-50,000 บาท”
กรณีที่กรมการขนส่งทางบก เสนอ ครม.ปรับแก้ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 โดยเพิ่มโทษผู้ที่ขับรถ แต่ไม่พกและไม่มีใบขับขี่ ในอัตราเพดาน 10,000-50,000 เป็นปรับสูงสุด 50,000 บาทนั้นจำคุกไม่เกิน 3 เดือนนั้น แม้จะเข้าใจว่าเป็นความพยายามเพื่อลดอุบัติเหตุหรือแก้ปัญหาจราจรก็ตาม แต่ผมมีข้อสังเกตกับร่างแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ ใน 5 ประเด็นดังนี้
1.ตรรกะของการเพิ่มอัตราโทษให้แรงขึ้นเพื่อแก้ปัญหานั้นเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วหรือ เพราะปัญหาจราจรมีปัจจัยเกี่ยวเนื่องที่ไม่ใช่แค่เรื่องของใบขับขี่เท่านั้น และผลกระทบต่อคนหาเช้ากินค่ำอาจรุนแรงกว่าที่คิด
2.แม้ว่าค่าปรับและโทษจำคุกจะเป็นดุลยพินิจของศาลคล้ายๆโทษเมาแล้วปรับจึงไม่ต้องห่วงว่าตำรวจจะมาหาประโยชน์นั้นไม่น่าจะเป็นความจริง เพราะเอาเข้าจริงๆแล้วไม่มีใครอยากขึ้นโรงขึ้นศาล การใช้วิธียัดเงินเคลียร์ปัญหาในขั้นตำรวจก็จะเกิดขึ้นตามมาแล้ว ยิ่งจะทำให้ระบบศาลเตี้ยขยายใหญ่ขึ้นจากอัตราโทษที่เพิ่มขึ้นหรือไม่
3.การอ้างว่าหลายประเทศก็ใช้อัตราโทษปรับสูงและรุนแรงแบบเป็นข้ออ้างที่มองข้ามบริบทของแต่ละสังคม โดยเฉพาะประเทศเหล่านั้น มีอัตราค่าครองชีพที่สูงกว่าประเทศไทยค่อนข้างมาก จึงไม่เป็นปัญหาในการกำหนดอัตราโทษในลักษณะที่สูงเช่นนั้น
4.ร่างแก้ไขกฎหมายฉบับนี้หารือกันเฉพาะในองค์กรที่เกี่ยวข้องแต่ไม่ได้สอบถามหรือรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนอย่างจริงจัง จึงอาจซ้ำรอยของพระราชกำหนดแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวหรือร่างกฎหมายที่ห้ามนั่งท้ายรถกระบะ ซึ่งในที่สุดก็ถูกต่อต้านและไม่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาอย่างแท้จริง
5.ร่างกฎหมายฉบับนี้มีประเด็นที่ควรทำประชาพิจารณ์ หรือรับฟังความเห็นสาธารณะหลายประเด็นด้วยกัน
“เช่น กรณีมีใบขับขี่ แต่ลืมจะมีความผิดด้วยหรือไม่ ปัญหาอุบัติเหตุกับเยาวชนที่ไม่มีใบขับขี่เกี่ยวเนื่องกับปัญหาครอบครัวและปัญหาเยาวชนในมิติอื่นหรือไม่ หรือโทษที่เพิ่มขึ้นถ้าต้องเพิ่มควรอยู่ในอัตราเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม หรืออาจเป็นการเปิดช่องให้ตำรวจบางนายรีดไถประชาชนเพิ่มขึ้นหรือไม่ จึงเห็นควรชะลอร่างกฎหมายฉบับนี้ไว้ก่อนแล้วรับฟังความคิดเห็นประชาชนทุกกลุ่มอย่างกว้างขวาง” นายสุริยะใส ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี