ผู้ว่าฯ กาญจน์สนองนโยบายรัฐบาลเร่งตรวจสอบโฉนดที่ดิน หลังยึดจากนายทุนดอกเบี้ยโหดกว่า 300 ฉบับค่ากว่า 100 ล้านบาท เผยเฟสแรกคืนไปแล้ว 25 ฉบับ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างตรวจสอบพร้อมเจรจาไกล่เกลี่ย 12 ก.ย.นี้มอบให้รัฐบาล ส่งคืนลูกหนี้ที่นครปฐม
29 ส.ค.61 เมื่อเวลา 12.30 น.ที่ว่าการอำเภอท่าม่วง จ.กาญจนบุรี นายบวรศักดิ์ วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยนายอธิสรรค์ อินทร์ตรา นายอำเภอท่าม่วง นายศิริ นิลขาว ปลัดอำเภอฝ่ายดำรงความเป็นธรรม อ.ท่าม่วง ได้ร่วมกันตรวจสอบโฉนดที่ดินที่นำมาจากนายทุนปล่อยเงินกู้กว่า 300 ฉบับ นอกจากนี้ยังมีสัญญาเงินกู้ที่ฝ่ายให้กู้กับผู้กู้อีกเป็นจำนวนมากที่จะต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบให้แล้วเสร็จโดยเร็ว จากนั้นจะได้เชิญตัวผู้กู้และผู้ให้กู้มาเข้าสู่ระบบการไกล่เกลี่ยเพื่อคืนโฉนดให้กับผู้กู้ตามนโยบายของรัฐบาล
นายบวรศักดิ์ วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่าจากนโยบายของรัฐบาลคืนความสุขให้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม ทางจังหวัดกาญจนบุรีจึงได้ตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ การกู้ยืมเงินโดยสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ขึ้นที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี หลังจากนั้นได้มีประชาชนเดินทางมาเพื่อร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดังกล่าว ทางนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี จึงมอบหมายให้ตนดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมาได้มอบหมายให้ตำรวจ สภ.ท่าม่วง นำกำลังเข้าไปตรวจสอบภายในสำนักงานของนายทุนปล่อยเงินกู้ตามที่ประชาชนร้องเรียนมา
จากการตรวจค้นภายในสำนักงานของนายทุนคนดังกล่าวปรากฏว่าพบโฉนดที่ดินของประชาชนที่มากู้อยู่เป็นจำนวนมาก เบื้องต้นมีโฉนดมากกว่า 300 ฉบับ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้นายทุนทราบถึงนโยบายของรัฐบาล เมื่อทราบเจ้าหน้าที่จึงได้ขอนำโฉนดที่มีอยู่ทั้งหมดมาตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าโฉนดที่พบทั้งหมดนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร จากนั้นก็จะเข้าสู่ระบบการไกล่เกลี่ยระหว่างผู้กู้กับผู้ให้กู้
"ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการไกล่เกลี่ยระหว่างผู้กู้กับผู้ให้กูมาแล้ว 25 ราย และสามารถคืนโฉนดให้กับผู้กู้ได้แล้ว 25 ฉบับ ซึ่งประชาชนทั้ง 25 รายที่ได้โฉนดที่ดินคืนเป็นชาวจังหวัดนครปฐม ซึ่งถือว่าเป็นเฟสแรกของการคืนโฉนดให้กับผู้กู้" นายบวรศักดิ์ กล่าว
นายบวรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเฟสที่ 2 จะคืนให้กับประชาชนผู้กู้ในวันที่ 12 ก.ย.นี้โดยจังหวัดกาญจนบุรี จะนำไปมอบให้กับรัฐบาลเป็นผู้มอบต่อให้ประชาชนที่จังหวัดนครปฐม โดยในขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบโฉนดและสัญญาการกู้ของประชาชน เมื่อตรวจสอบแล้วเสร็จก็จะนำเข้าสู่ระบบการไกล่เกลี่ย หากตรวจสอบแล้วพบว่านายทุนกระทำผิดกฎหมายเจ้าหน้าที่ก็จะต้องดำเนินคดี แต่ถ้าหากมีการเจรจาแล้วนายทุนยอมคืนความเป็นธรรมให้กับลูกหนี้เราก็จะเร่งดำเนินการทันที
"สำหรับวิธีการปล่อยกู้ รวมทั้งจำนวนผู้เสียหายและยอดเงินของผู้เสียหายทั้งหมดรวมกันเท่าไหร่และคิดดอกเบี้ยร้อยละเท่าไหร่นั้นขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบเอกสารไม่เสร็จ สำหรับวิธีการให้กู้มันมีหลากหลายวิธี มีทั้งเรื่องของจำนวนดอกเบี้ยจะสูงมาก แต่ถ้าหากสามารถคำนวณดูแล้วพบว่าจำนวนเงินที่นายทุนได้ไป มันเกินกว่าที่ลูกหนี้นอกระบบจะต้องจ่ายจริงก็จะขอความร่วมมือกับนายทุนให้ยุติการเก็บเงินและให้คืนโฉนดให้กับลูกหนี้ไป”นายบวรศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวิธีการการปล่อยเงินกู้ของนายทุนมีหลายรูปแบบ ตัวอย่างเช่นทำสัญญาเงินกู้ 80,000 บาท แล้วคิดรวมดอกเบี้ยเข้าไปรวมเป็นประมาณ 9 หมื่นกว่า จากนั้นจะทำสัญญาเงินกู้อีกต่างหากในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาท เป็นต้น
สำหรับลูกหนี้ทั้งหมดที่นำโฉนดมาค้ำประกันจากนายทุนคนดังกล่าว มีทั้งจาก จ.กาญจนบุรี อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี รวมทั้งจาก จ.สุพรรณบุรี และนคอรปฐม แต่ลูกหนี้ส่วนใหญ่จะเป็นชาว จ.กาญจนบุรี
จากจำนวนใบโฉนดที่กำลังตรวจสอบมีมากกว่า 300 ฉบับและยอดตัวเลขของแต่ละรายที่กู้ มีตั้งแต่หลักหมื่นบาทไปจนถึงหลัก 1 ล้านบาท คาดว่าจะมียอดเงินกูรวมกันมากกว่า 100,000,000 บาท ส่วนนายทุนที่ปล่อยเงินกู้ มีชื่อย่อว่า "ช."
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี