29 ส.ค.61 เมื่อเวลา 16.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 , พล.ต.ต.สมชาย พัชรอินโต รอง ผบช.ภ.1 , พล.ต.ต.ธนา ยุตม์ วุฒิจรัสธํารงค์ รอง ผบช.ภ.1 , พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 ร่วมกันแถลงผลจับกุม นายอภิชาติ บุญเรือง อายุ 42 ปี และ น.ส.อุษา เกษมณี หรือนางฑิญาตา บุญเรือง อายุ 38 ปี สองสามีภรรยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานีที่ จ.170/2561 ลงวันที่ 20 ส.ค.61 ในผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม
โดยจับกุมได้ภายในบ้านเลขที่ 144/129 หมู่บ้านสัมพันธ์วิลล่า ซอยพหลโยธิน 52 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.พร้อมของกลาง ประกอบด้วย สุนัขพันธุ์ชิสุจำนวน 1 ตัว รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นซิลฟี สีขาว เลขทะเบียน 5กถ-2052 กรุงเทพมหานคร และเลขทะเบียน ขน 552 ชลบุรี รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแคมรี่ สีบรอนทอง เลขทะเบียน ษจ 8432 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นอัลเมรา สีดํา ติดป้ายแดง ทะเบียน ศ-4430 กรงเทพมหานคร รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว เลขทะเบียน 1กฆ-5515 กรุงเทพมหานคร อาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก โทรศัพท์มือถือ 55 เครื่อง บัตรเอทีเอ็มและบัตรเครดิต 10 ใบ นาฬิกาข้อมือ 20 เรือน กระเป๋าแบรนด์เนม จำนวน 55 ใบ บัตรประจำตัวประชาชนใบอนุญาตขับขี่ บัตรประจำตัวข้าราชการ จำนวน 18 ใบ ตั๋วรับจำนำ 18 ใบ เครื่องประดับ อาทิ สร้อยคอ สร้อยข้อมือ กำไล แหวน ต่างหู วัตถุมงคล พระเครื่อง จำนวนมาก รวมของกลางทั้งสิน 137 รายการ มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบา
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากพฤติการณ์ของคนร้าย ได้ร่วมกันก่อเหตุ 2 คน ใช้รถยนต์เป็นพาหนะในการก่อเหตุลักทรัพย์ตามร้านค้ามาแล้วนานกว่า 15 ปี ซึ่งการก่อเหตุแต่ละครั้งใช้อุบายทําทีเป็นลูกค้าเข้ามาชวนพูดคุยตีสนิทกับเจ้าของร้านแล้วสั่งซื้อของเป็นจํานวนมาก รวมถึงการอุ้มหมา อุ้มเด็ก เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ บางครั้งถือร่มเพื่อหลบกล้องวงจรปิด ก่อนฉวยโอกาสขณะเหยื่อจัดเตรียมสินค้าและไม่ได้เฝ้าระวังทรัพย์สิน ทำการลักทรัพย์แล้วหลบหนีไป
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวต่อว่า คนร้ายเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งในท้องที่ต่างๆ ถือ เป็นภัยคุกคามต่อความ ปลอดภัยในทรัพย์สินและมีผลกระทบต่อการประกอบอาชีพสุจริตของประชาชน นอกจากนี้พบว่ามีผู้เกี่ยวข้องในการสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทําความผิด โดยการนําทรัพย์สินของคนร้ายที่ได้จากการกระทําความผิดไปเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินของตนเองจํานวนหลายรายการ ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน ซึ่งจะได้ดําเนินการต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องให้การรับสารภาพว่าในปีนี้ได้ก่อเหตุน้อยลงเหลือประมาณเดือนละ 10 ครั้ง ไม่ประกอบอาชีพอะไร เมื่อได้ทรัพย์สินมาจะนำไปขาย แล้วเอาเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจําวัน บางส่วนนำไปซื้อทรัพย์สิน ทั้งรถยนต์ บ้าน และที่ดิน โดยไม่ใช้ชื่อตัวเอง และไปเล่นการพนัน ส่วนที่อุ้มหมาไปด้วยนั้น เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคนมีจิตใจรักสุนัข และเคยคิดจะเปิดฟาร์มเพาะเลี้ยงสุนัขมาก่อน
นอกจากนี้ ขณะก่อเหตุจะนำบัตรประชาชน และใบขับขี่ของบุคลอื่นที่มีใบหน้าคล้ายนำไปใช้กระทำความผิด เพื่อหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และใช้แสดงตัวเมื่อผ่านด่าน หากโดนเรียกตรวจจากเจ้าหน้าที่ก็จะแสดงบัตรที่ไม่ใช่ชื่อตัวเองแทน ทำให้เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจเช็คประวัติจึงไม่พบว่าเคยกระทำผิดมาก่อน ทั้งนี้ พบว่ามีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นจาก 44 คน เป็น 52 คน หากให้สงสัยว่าเคยถูกผู้ต้องหาทั้งสองก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว สามารถเดินทางมาอายัดตัวไว้ดำเนินคดีได้
พล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ทางผู้ต้องหาทั้งสองคนยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ได้ขอร้องว่าให้ช่วยดูแลความปลอดภัยกับลูกสาวทั้งสองคนของผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากมีคนอ้างตัวเป็นผู้เสียหายจะไปดักทำร้ายร่างกายที่โรงเรียน จึงวิงวอนผ่านสื่อว่าลูกสาวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พบว่า นายอภิชาติ บุญเรือง มีหมายจับ 17 หมาย ส่วน น.ส.อุษา เกษมณี หรือนางฑิญาตา บุญเรือง มีหมายจับ 12 หมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมผู้ต้องหาทั้งสองคนมาสอบปากคำยังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้มีผู้เสียหายกว่า 20 คน ที่มาดูของกลาง ได้มาดักยืนรอดูหน้าผู้ต้องหาอยู่ที่บริเวณด้านหลังอาคาร ทันทีที่ผู้ต้องหาเดินทางมาถึง ผู้เสียหายนับสิบคนได้กรูเข้าไปรุมประชาทัณฑ์โจรผัวเมียทั้งสองคนอย่างชุลมุนวุ่นวาย และบางคนก็ถอดรองเท้าตีด้วยความโกรธแค้น บ้างก็ด่าทอ รวมถึงพยายามเข้าถึงตัวคนร้ายเพื่อทำร้ายร่างกาย จนเจ้าหน้าที่ต้องรีบนำผู้ต้องหาขึ้นไปยังอาคารอย่างทุลักทุเลภาย
ทั้งนี้ หลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้นทางตัวแทนผู้เสียหายได้มอบแจกันดอกไม้ให้กับ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ , พล.ต.ท.สุวัฒน์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ที่สามารถติดตามตัวคนร้ายทั้ง 2 ราย มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี