เตือน5อำเภออยุธยารับมือน้ำล้นตลิ่ง1-2วันนี้ สั่งเฝ้าระวังโบราณสถาน
30 ส.ค.61 ที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ว่าพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลแผนน้ำของประเทศ ได้สั่งการให้ทำบัญชีอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศมีน้ำมากเกินเกณฑ์ควบคุม พร้อมแผนเผชิญเหตุภาวะวิกฤติเป็นหนึ่งเดียว พร้อมเส้นทางเบี่ยงน้ำกรณีฉุกเฉินเพื่อให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด
โดยกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น ดูแลอ่างขนาดเล็กกว่า 4 พันแห่ง กรมทรัพยากรน้ำ 470 แห่ง กรมชลประทาน ดูแลอ่างขนาดกลางมีน้ำมาก ในภาคอีสาน 25 แห่ง และร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต(กฟผ.)ดูแล เขื่อนใหญ่ 6 แห่งมีน้ำมาก ร้อยละ90-100 เขื่อนน้ำอูน เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนแก่งกระจาน เขื่อนปราณบุรี เขื่อนขุนด่านปราการชล ให้ทุกแห่งทำแผนเส้นทางระบายน้ำ ถึงช่วงไหนเปิดทางน้ำให้ผ่านได้รวดเร็ว ต้องส่งแผนมาทั้งหมดให้ สทนช.ภายในวันที่31 ส.ค.นี้
ทั้งนี้ การจัดทำบัญชีอ่างเก็บน้ำทุกแห่ง เนื่องจากรองนายกฯ ห่วงสถานการณ์น้ำ ให้การคาดการณ์ ของกรมอุตุนิยมวิทยากับสำนักงานสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(สสนก.)ทำเป็นหนึ่งเดียว พบว่า วันที่ 30 ส.ค.-1 ก.ย.61 ยังมีฝนมากจากหย่อมความกดอากาศปกคลุมอ่าวตังเกี๋ย ประเทศเวียดนาม ส่งผลให้ฝนหนัก น้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม แนวจังหวัดติดแม่น้ำโขงรับน้ำจากประเทศลาว มีระดับน้ำสูงล้นตลิ่ง จ.มุกดาหาร-อุบลราชธานี ที่จะทำให้แม่น้ำสงคราม เพิ่มสูงขึ้นกระทบการระบายน้ำจากเขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร โดยรองนายกฯได้ให้กรมชลประทาน เร่งพร่องลำน้ำภาคอีสานรองรับฝนใหม่ และภาคเหนือ จ.น่าน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แม่ฮ่องสอน ทั้งนี้ยังมีอิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้เพิ่มน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนศรีนครินทร์ , เขื่อนแก่งกระจาน เขื่อนปราณบุรี ต้องเร่งระบายน้ำ และพร่องลำน้ำให้มากขึ้นเพื่อมีพื้นที่รับน้ำฝนมากขึ้นให้ได้
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ในส่วนภาคกลาง อาจจะมีพายุเข้าช่วงปลายเดือน ก.ย.-ต.ค.ได้สั่งให้กรมชลประทาน เร่งพร่องลำน้ำเจ้าพระยา เพิ่มการระบายเขื่อนเจ้าพระยา ประกาศเพิ่มการระบายผ่านเขื่อนจาก 630 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็น 800 ลบ.ม.ต่อวินาที หรือ 70 ล้านลบ.ม.ต่อวัน ผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ลงอ่าวไทย ในวันที่ 31 ส.ค.จะส่งผลพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำท่วมซ้ำซาก อ.เสนา บางบาล ป่าโมก ผักไห่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 30-50 ซม.ใน1-2 วันนี้ เพราะรับน้ำจากฝนตกในพื้นที่ด้วย รวมทั้งช่วงกลางเดือน ก.ย.มีร่องมรสุมมาจากประเทศจีนกระทบมากขึ้นด้วย
“ได้ให้กรมชลประทาน เร่งผู้ว่าราชการจังหวัดแจ้งประกาศเตือนประชาชนอยู่อาศัยในพื้นที่ลุ่มต่ำ และเฝ้าระวังโบราณสถาน ใกล้แม่น้ำใน จ.พระนครศรีอยุธยา ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพิ่มระบายจากเขื่อนเจ้าพระยา ลงอ่าวไทย วันละ 70 ล้านลบ.ม. เพื่อพร่องน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา รับฝนเดือน ก.ย.ที่แนวฝนอาจมาตกท้าย 4 เขื่อนใหญ่ คือ เขื่อนภูมิพล สิริกิต์ แควน้อย ป่าสักฯ มีน้ำ60-70% ยังรับน้ำได้อีก ส่วนพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา จะล้นตลิ่งตั้งแต่ระดับน้ำที่ระบายผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 700 ลบ.ม.ต่อวินาที เริ่มกระทบ” นายสมเกียรติ กล่าว
นายสมเกียรติ ยังระบุว่า ส่วนเขื่อนป่าสักฯเริ่มพร่องน้ำวันละ23 ล้านลบ.ม.เพื่อรับน้ำเข้าฤดูฝนภาคกลาง โดยเขื่อนป่าสัก ระบายออกคลองระพีพัฒน์แยกใต้ 6 ล้านลบ.ม.ต่อวันลงอ่าวไทย ฝั่งตะวันออกของกทม.และผ่านเขื่อนพระราม6 ลงแม่น้ำเจ้าพระยา 17 ล้านลบ.ม. ทำให้ระดับน้ำที่ไหลผ่านอ.บางไทร 1,000 ลบ.ม. ต่อวินาที
“ปริมาณน้ำในเขื่อนใหญ่ลุ่มเจ้าพระยา ปีนี้ยืนยันว่าน้อยกว่าปี 54 โดยเขื่อนขนาดใหญ่ ช่วงเดียวกันของปี 54 เต็ม100% แล้ว ทั้งเขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ ซึ่งสทนช.ได้แจ้งเตือน จ.พระนครศรีอยุธยา แนวจังหวัดติดแม่น้ำโขง รับมือน้ำล้นตลิ่ง” นายสมเกียรติ กล่าว
เลขาฯ สทนช.กล่าวว่า สำหรับเขื่อนใหญ่ในภาคตะวันตก ภาคตะวันออก ต้องเร่งระบายในช่วงนี้ เพราะช่วงกลางเดือนก.ย.จะได้รับกระทบจากร่องมรสุมด้วย เขื่อนปราณบุรี เขื่อนขุนด่านฯ ส่วนที่ต้องเพิ่มการระบายน้ำเร่งด่วน คือ เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ ขณะนี้ระบาย 53 ล้านลบ.ม.ต่อวัน ถึงวันที่ 3 ก.ย. ให้ทำแผนปรับเพิ่มเพราะฝนยังมาเติมอยู่ โดยเขื่อนวชิราลงกรณ ขยับเพิ่มขึ้นอีก 5-10 ล้านลบ.มต่อวัน ซึ่งต้องดูผลกระทบพื้นที่ตอนล่างด้วย แจ้งเตือนประชาชนก่อนปรับเพิ่มระบายน้ำ3 วัน และเขื่อนศรีนครินทร์ มีน้ำมากกว่า90 % ให้ขยับเพิ่มระบายจาก 20 ล้านลบ.ม.ต่อวันเพิ่มอีก 5 ล้านต่อวัน ยังไม่กระทบแม่น้ำแควใหญ่ แม่กลอง พร้อมแจ้งทราบล่วงหน้า
ทั้งนี้ สถานการณ์แม่น้ำนครนายก แม่น้ำปราจีน เริ่มทรงตัว โดยเขื่อนขุนด่าน เขื่อนนฤบดินทรจินดา มีการปรับระบายไม่ให้กระทบย่านเขตเมืองกบินทร์บุรี เมืองนครนายก โดยกรมชลประทาน ไปปรับเบนทางน้ำ และสูบระบายออกช่วยพื้นที่ได้ท่วมแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี