เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. พล.ต.ต.ฤชากร จรเจวุฒิ รอง ผบช.น.พร้อมคณะ และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.แถลงผลการระดมปิดล้อมตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหา
รายสำคัญตามแผน “พิทักษ์ประชา 61/4 กองบัญชาการตำรวจนครบาล” ระหว่างวันที่ 1กรกฎาคม-30 สิงหาคม 2561 โดย พล.ต.ต.ฤชากรกล่าวว่า ปฏิบัติการตามแผนดังกล่าว สามารถติดตามจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด แบ่งเป็นจำหน่ายยาเสพติด 234 คน ครอบครองเพื่อจำหน่าย 1,204 คน ครอบครองยาเสพติด1,909 คน และเสพยาเสพติด 3,045 คน รวมทั้งสิ้น 6,392 คน ยึดของกลาง ยาบ้า 13,419,308 เม็ด ยาไอซ์ 188 กิโลกรัม กัญชา 326 กิโลกรัม และกระท่อม 203 กิโลกรัม
รวมทั้งจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติดไว้ได้ 184 หมาย ครอบครองอาวุธปืน100 คน พร้อมของกลาง อาวุธปืน 100 กระบอกเครื่องกระสุน 1,050 นัด ตรวจยึดทรัพย์สินมูลค่า 19,179,632 บาท
ด้าน พ.ต.อ.นครรินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.1 กล่าวว่า ในส่วนคดีที่น่าสนใจของ กก.สส.น.1 จับกุม น.ส.อาภาพร รสเศรษฐา อายุ 28 ปี และนายมิชาร์ค บารัค เฮนรี่ อายุ 37 ปี
ชาวไนจีเรีย พร้อมของกลางโคเคน 8.5 กรัม โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ได้ที่ร้านสะดวกซื้อข้างตึกบียู เพลส ซอยประชาสงเคราะห์ 2 แยก 9แขวงและเขตดินแดง กทม. และที่พักย่านแฮปปี้แลนด์ เขตบางกะปิ กทม.สืบเนื่องจากวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้ต้องหาลอบค้ายาเสพติดดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงวางแผนเข้าจับกุม
สอบสวนนายมิชาร์ค รับสารภาพว่า ซื้อยาเสพติดจากนายลอรินซ์ เพื่อนชาวไนจีเรีย จำนวน 10 ถุง ในราคา 15,000 บาท นัดรับของในซอยสุขุมวิท 5 ก่อนนำมาแบ่งขายให้ลูกค้าถุงละ3,000 บาท โดยให้แฟนสาวนำไปส่ง เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ดินแดงดำเนินคดี
พล.ต.ต.ฤชากรกล่าวเสริมว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กำหนดให้ทุกกองบัญชาการ ดำเนินการปิดล้อมตรวจค้น ปราบปรามและกดดัน รวมถึงใช้มาตรการทางด้านทรัพย์สิน ตาม พ.ร.บ.มาตรการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 อย่างต่อเนื่อง จริงจังและเด็ดขาด โดยทาง บช.น.ประสานการทำงานร่วมกับ ทหาร ป.ป.ส.และ บช.ปส.รวมทั้งฝ่ายปกครอง จัดชุดปฏิบัติการเข้าร่วมดำเนินการตามเป้าหมายต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ กทม.
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ได้กระจายกำลังกันเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายใน จ.ยะลา ภายหลังเกิดเหตุคนร้ายไม่ต่ำกว่า 8-10 คน พร้อมอาวุธครบมือ ร่วมกันก่อเหตุบุกเผาสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) อ.กาบัง จ.ยะลา โดยจับพนักงานของสำนักงานการไฟฟ้าดังกล่าว มัดมือไว้ 6 คน แต่ไม่ได้ทำร้าย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทั้งนี้ จากการปิดล้อมตรวจค้นเจ้าหน้าที่ไม่พบตัวกลุ่มผู้ต้องสงสัย แต่เชื่อว่าทั้งหมดเป็นกลุ่มของนายฮูไบดีละ รอมมือลี แกนนำกลุ่มผู้ก่อเหตุความไม่สงบที่เคลื่อนไหวอยู่ใน อ.ยะหา และ อ.กาบัง เพื่อตอบโต้เจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ ยังเป็นการแสดงศักยภาพในวันครบรอบก่อตั้งขบวนการเบอร์ซาตู ในวันเดียวกันนี้
ด้านเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อเวลา 07.30 น. วันเดียวกัน เกิดเหตุคนร้ายขับจักรยานยนต์ประกบยิงนายแซมสุดิง ตาเห อายุ 60 ปี เสียชีวิต บนเบาะจักรยานยนต์พ่วงข้างสีน้ำเงิน ทะเบียน กยธ 126 พัทลุง บริเวณริมถนนในหมู่บ้านจาแปปะหมู่ 7 ต.เสาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และก่อนหน้านี้เมื่อช่วงค่ำวันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา ในพื้นที่ จ.ปัตตานี เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายอายิบ มูตอ อายุ 58 ปี อาสาสมัครรักษาดินแดนเสียชีวิต นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งสืบสวนหาสาเหตุและติดตามจับกุมคนร้ายแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี