วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
มีโอกาสได้ฟัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ซึ่งออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ แห่งประเทศไทยแบบเต็มๆ เมื่อวันศุกร์สิ้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เกิดสะกิดใจถึงความห่วงใยในประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะขยะ น้ำเสีย จนถึงเรื่องการใช้พลาสติก ปัจจัยหนึ่งที่ก่อมลพิษแก่โลก ซึ่งก่อนหน้านี้ ไม่ค่อยเคยได้ยินท่านนายกฯพูดถึงเรื่องนี้มากนัก แต่เมื่อได้ฟังเป็นเรื่องเป็นราว เลยอยากจะสนับสนุนพร้อมเสนอแนะให้รัฐบาลผลักดันเรื่องนี้เป็นจริงเป็นจัง เข้มข้น หรือที่ชอบพูดกันว่ายกให้เป็น “วาระแห่งชาติ” เหมือนปัญหาค้ามนุษย์ ประมงผิดกฎหมาย มาเฟีย หนี้นอกระบบอย่างนั้น
โดยเฉพาะปัญหา “ขยะ” ที่พูดถึงกันมากมานาน ตั้งแต่ก่อนมีการบุกตรวจจับขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่ลักลอบนำเข้ามา จนขยายผลกวาดล้างหลายพื้นที่ ทำให้สังคมตื่นตัว ลามไปพูดถึงขยะภาคอุตสาหกรรม ที่ส่วนราชการได้ขยับปรับเปลี่ยนกฎระเบียบการจัดการกันแล้ว ส่วนขยะในครัวเรือน ทุกภาคส่วนก็เคลื่อนไหวเช่นกัน
ในเรื่องนี้ถ้าจะให้ได้ผลเป็นรูปธรรม คงต้องปูพรมทำพร้อมกันทั้งประเทศ แค่ต่างคนต่างทำคงได้ผลระดับหนึ่ง แต่ถ้ามีหน่วยงานหลัก หรือคนที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ เป็นเจ้าภาพระดับประเทศ รับนโยบายจากรัฐบาลมาดำเนินการ มีอำนาจตัดสินใจได้เลย สรรหาบุคลากรที่สันทัดปัญหา ไม่เกี่ยงว่าต้องนักวิชาการจบสูง แต่เป็นใครที่มีความรู้จริงในปัญหา สังคมยอมรับ วัดจากประสบการณ์ปฏิบัติจริงในชีวิต มาระดมสมอง วางแนวทาง ร่างแผน คิดแคมเปญ แล้วก็ลงมือทำขับเคลื่อนไปพร้อมกัน ทั้งขยะ น้ำเสีย ควันพิษ รับลูกไปสานต่อ เริ่มสร้างวินัยกันที่ครอบครัว สถาบันการศึกษา หน่วยงานรัฐ เอกชน รับรองสำเร็จเห็นผลเป็นรูปธรรมทั้งระบบในเร็ววันแน่ เพราะทุกวันนี้ หลายภาคส่วนต่างคนต่างลงมือกันไปแล้ว แต่ถ้าขาดการผลักดันรับลูกต่อเป็นทอด จริงจัง เกรงจะเงียบหายไปเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง จนปลุกไม่ขึ้นอีก
ที่ว่ามายืดยาว ก็อยากให้นายกฯ เป็นหัวหอกนำเทรนด์เสียเอง จุดกระแสให้ดังเป็นพลุ ตื่นตัวกันทุกครัวเรือน เอาแบบเข้มๆ เพื่อความยั่งยืน เลิกใช้โฟม พลาสติก เลิกทิ้งขยะส่งเดชกันไปเลยจริงๆ เพื่อสิ่งแวดล้อมสะอาด สิ่งมีชีวิตบนโลกปลอดภัย เราจะได้ไม่ต้องเห็น หรือต้องรับรู้ภาพ สัตว์ทะเล สัตว์ป่าในอุทยานฯกินถุงพลาสติก เศษซากกระป๋อง โฟม ฯลฯ เกลื่อนป่า เกลื่อนหาด เกลื่อนแม่น้ำลำคลอง ท้องทะเล รวมถึงลดมลภาวะ ลดค่าใช้จ่ายจัดเก็บ ทำลาย จนถึงต้นทุนรักษาพยาบาล
ประเด็นเหล่านี้ อาจดูเป็นเรื่องเก่าเอามาเล่าใหม่ แต่รู้สึกเสียดายที่ลงมือปลุกปั้น พอเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ปล่อยให้เฉาตายหายไป ที่สำคัญ อย่างที่นายกฯพล.อ.ประยุทธ์กล่าวไว้ในรายการวันนั้น ตอนหนึ่งว่า “...ทั้งปัญหาขยะ น้ำเสียเป็นอีกตัวชี้วัดหนึ่งของการพัฒนาที่ไม่สมดุล ไม่ยั่งยืน...” พร้อมย้ำอีกว่า “...นโยบายไทยแลนด์ 4.0 อยู่บนพื้นฐานของการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ถึงเวลาที่คนไทยต้องเปลี่ยนหลักคิด สร้างวิถีปฏิบัติใหม่ เพื่อแก้ไขของเก่า ขณะเดียวกัน ก็ต้องป้องกันของใหม่ ไม่ให้
ผิดพลาดซ้ำรอยเดิม...”
การจุดประกายให้คนปรับเปลี่ยนแนวคิด ทัศนคติ รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม คงสร้างไม่ได้ง่าย สำเร็จภายในวันเดียว จึงควรต้องลงมือเสียแต่วันนี้ แบบสม่ำเสมอ อย่าแผ่วปลาย และสุดท้ายก็แอบขอฝากความหวังไว้กับท่านนายกฯ ด้วยความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมว่า ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ลงมือตีปี๊บถือธงด้วยตัวเอง รับรองความสำเร็จรออยู่ปลายอุโมงค์เป็นแน่ เพราะเมื่อรัฐบาลลุยนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เต็มสูบ ก็ควรสัมฤทธิผลยั่งยืนทุกด้าน อย่าให้เรื่องสิ่งแวดล้อมหลุดเฟรม ได้แค่ 0.4 นะท่านนายกฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี