12 ก.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย พล.ต.คณเดช พงศบางโพธิ์ รอง ผอ.กอ.รมน.เชียงราย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย และเหล่าศิลปินเชียงราย รวมไปถึงเจ้าหน้าที่กรมอุทยานชาวบ้าน จำนวนมาก ได้ร่วมกันประกอบพิธียกเสาเอก สำหรับการก่อสร้างศาลาอนุสรณ์ ซึ่งเป็นอาคารที่สร้างด้วยไม้สำหรับเป็นพิพิธภัณฑ์ แหล่งเรียนรู้และตั้งอนุสาวรีย์รูปปั้นของ นาวาตรีสมาน กุนันท์ หรือจ่าแซม วีรบุรุษถ้ำหลวง ผู้ที่เสียชีวิตจากปฏิบัติการช่วยเหลือน้องๆ ทีมหมูป่าอะคาเดมี ทั้ง 13 ชีวิต ที่ประสบภัยติดภายในถ้ำหลวง
โดยพิธีการนั้น อาจารย์สมลักษณ์ ปันติบุญ ศิลปินช่างไม้ ซึ่งเป็นแม่งานในการก่อสร้างอาคารดังกล่าวได้นำศิลปินทำการเทคอนกรีตพื้นของอาคารและจัดวางฐานเสาเพื่อตั้งเสาที่ทำด้วยไม้สัก โดยเสาต้นแรกยกขึ้นโดยมีการประกอบพิธีบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และทาง พล.อ.สุรศักดิ์ และคณะ ได้ร่วมกันชักเสาเอกขึ้นด้วยดีท่ามกลางผู้เข้าร่วมงาน ขณะที่อาจารย์เสงี่ยม ยารังษี ศิลปินที่เป็นจิตรกรชาวเชียงรายอีกคนได้ทำการวาดภาพสถานที่ก่อสร้างเอาไว้เป็นที่ระลึกอย่างงดงามด้วย
โดยพล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ในการเดินทางไปยังถ้ำหลวงครั้งนี้ตนไปตรวจดูความคืบหน้าในการบูรณะพื้นที่หลังปฏิบัติการ และเพื่อดูการยกฐานให้วนอุทยานแห่งนี้เป็นอุทยานแห่งชาติซึ่งก็จะมีการดูหลักเกณฑ์ต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบต่อไป ขณะเดียวกันก็ถือโอกาสร่วมกับอาจารย์เฉลิมชัย ซึ่งได้เสียสละสร้างศาลาอนุสรณ์สถานแห่งนี้ในการยกเสาเอก เพราะนับจากนี้สถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นพื้นที่ของคนทั้งโลก จึงจะทำให้กลายเป็นทั้งสถานที่ทางธรรมชาติ อนุสรณ์สถาน แหล่งท่องเที่ยว ฯลฯ ซึ่งทาง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ฝากมาบอกว่าไม่ว่าจะพื้นที่แห่งนี้จะเป็นวนอุทยานหรืออุทยานแห่งชาติก็ขอให้ประชาชนได้ประโยชน์ด้วย
พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า การจะยกฐานะให้เป็นอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน นั้นถือว่ามีความเป็นไปได้สูงเพราะพื้นที่มีภูมิศาสตร์และองค์ประกอบต่างๆ เหมาะสม แต่ก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนก่อนเพราะหากว่าได้รับการยกฐานะแล้วเหมือนเดิมก็จะไม่มีประโยชน์ใดๆ
ทางด้านอาจารย์เฉลิมชัย กล่าวว่า ศาลาอนุสรณ์สถานแห่งนี้จะสร้างแล้วเสร็จต้นปี 2562 โดยในส่วนของรูปปั้นที่หล่อด้วยโลหะของจ่าแซมจะแล้วเสร็จก่อนในอีก 2 เดือนข้างหน้าส่วนวาดภาพยาว 13 เมตรและรูปภาพด้านข้างอีก 2 ภาพจะแล้วเสร็จก่อน ซึ่งเมื่อศาลาแล้วเสร็จก็จะนำภาพวาดไปจัดแสดงภายในต่อไป ดังนั้นอาจจะได้เห็นรูปปั้นจ่าแซมไปตั้งไว้ด้านหน้าศาลาแห่งนี้ก่อนในอีก 2 เดือนข้างหน้า ส่วนตัวศาลาและสิ่งก่อสร้างทั้งหมดจะเสร็จสมบูรณ์ก็คงจะเป็นช่วงเดือน ม.ค.62 แต่ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปก็สามารถไปชมการสร้างศาลาไม้ที่งดงามแห่งนี้และอาจจะมีรูปปั้นของจ่าแซมไปตั้งเอาไว้ที่หน้าถ้ำไว้แล้วด้วยต่อไป
“เมื่ออนุสรณ์สถานแห่งนี้แล้วเสร็จก็จะทำให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ โดยประชาชนทั่วโลกสามารถไปศึกษาเรียนรู้และชมสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านผลงานทางศิลปะดังกล่าว จากนั้นคงจะมีการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถบริหารจัดการหรือเลี้ยงตัวเองได้ เช่น จำหน่ายของที่ระลึก ภาพวาด ฯลฯ เพื่อให้พึ่งพางบประมาณจากภาครัฐให้น้อยที่สุดและสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองอย่างยั่งยืนต่อไป” อาจารย์เฉลิมชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในปัจจุบันกรมอุทยานแห่งชาติฯ ยังไม่อนุญาตให้เข้าชมถ้ำหลวงได้แต่เปิดให้ชมเฉพาะพื้นที่บริเวณด้านหน้าถ้ำโดยมีการทำรั้วเอาไว้แต่ก็พอมองเห็นปากถ้ำได้ ทำให้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวพากันเดินทางไปชมในแต่ละวันเป็นจำนวนมากเช่นเดิมจนและมีร้านค้าเปิดขายสินค้าบริเวณถนนทางเข้า เพราะเจ้าหน้าที่จะให้จอดรถไว้ด้านหน้า ทางเข้าและให้เดินเข้าไปที่หน้าถ้ำประมาณ 800 เมตร.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี