12 ก.ย.61 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้นำตัว นางวรรณภา คำพิพจน์ อายุ 30 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ ที่แจกเสื้อสหพันธรัฐไท ผู้ต้องหาข้อหาอั้งยี่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 มาตรา 209 แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) มาขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 12 - 23 ก.ย.นี้ ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
กรณีเมื่อประมาณปี 2557 เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าว ได้รับคำสั่งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านรัฐบาล และก่อความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยพบว่ามีบุคคลหลายกลุ่มที่มีพฤติการณ์ในการต่อต้านรัฐบาลและคสช.ซึ่งก็ได้มีการร้องทุกข์ดำเนินคดีเรื่อยมา ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ส.ค.2561 ฝ่ายข่าวคณะรักษาความสงบแห่งชาติสืบทราบว่านายกฤษณะ อาษาสู้ กับพวกรวม 3 คน (ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้แล้ว) มีพฤติการณ์ต่อต้านรัฐบาล โดยมีการรวมกลุ่มในชื่อกลุ่มสหพันธรัฐไท ทำการเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยมีการวางแผนและแบ่งหน้าที่กันทำ โดยพยายามโน้มน้าวประชาชนให้เห็นด้วยในการเปลี่ยนระบอบการปกครองของประเทศไทยจากระบอบประชาธิปไตยฯ ให้เปลี่ยนไปปกครองในระบอบ "สหพันธรัฐ"
โดยมีการเคลื่อนไหวในเชิงสัญลักษณ์ เช่น การทำเสื้อ ,สติ๊กเกอร์ แจกจ่ายให้สมาชิกในกลุ่มและเผยแพร่ใบปลิวไปตามสถานที่ต่างๆ ในลักษณะเผยแพร่แนวคิดของกลุ่มสหพันธรัฐโดยนำไปปิดและแจกจ่ายในสถานที่ต่างๆ และยังมีการวางแผนที่จะทำกิจกรรมต่างๆ ที่สนับสนุนแนวคิดของกลุ่ม ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล จึงอาศัยอำนาจตามคำสั่ง หัวหน้าคณะ คสช.ที่ 3/2558 ลงวันที่ 1 เม.ย.2558 เชิญตัว นายกฤษณะ กับพวกรวม 3 คน มาซักถามที่ มทบ.11 ซึ่งผลการซักถาม นายกฤษณะ กับพวกยอมรับว่าได้รวมกลุ่มกันในชื่อกลุ่มสหพันธรัฐไท
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงการปกครองฯ จึงได้รายงานพฤติการณ์และการกระทำของกลุ่มผู้ต้องหาให้รัฐบาลทราบ จึงมอบหมายให้ผู้กล่าวหามาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และฝ่ายข่าวสืบสวนขยายผลทราบว่า แกนนำองค์กรสหพันธรัฐไทยซึ่งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ได้จัดทำเสื้อดำติดธงสัญลักษณ์และมีนางวรรณภาผู้ต้องหา เป็นบุคคลที่รับเสื้อดังกล่าว
จากนางสมพิศ สมบัติหอม มารดาผู้ต้องหา ซึ่งเป็นแนวร่วมกลุ่มสหพันธรัฐไทที่หลบหนีจากประเทศไทย เข้าไปเคลื่อนไหวอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านมาแจกจ่ายให้กับสมาชิกเพื่อขยายแนวร่วม โดยเดินทางเข้าไปทางจ.หนองคาย ได้รับเสื้อมาแล้ว 3 ครั้ง โดยเดินทางไปเสื้อมาจำนวน 60 ตัว แล้วนำมาส่งที่ไปรษณีย์หนองคาย เพื่อส่งให้กับแนวร่วมตามที่อยู่ต่างๆ ส่วนเสื้อที่เหลือนำมาไว้ที่ห้องตัวเองเพื่อรอให้ส่งสมาชิก ตามคำสั่งของนางสมพิศ จนเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพบและจากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหา ยังพบว่ามีการถ่ายภาพใบปลิวข้อความปลุกระดม ตามสถานที่ต่างๆ หลายแห่ง
ต่อมาเมื่อวันที่ 11 ก.ย.เวลา 16.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม (กก.1บก.ป.) ได้ร่วมกันจับกุม นางวรรณภา ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2067/2561 ลงวันที่ 11 ก.ย.2561 ข้อหา “ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่การกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ใช่เพื่อแสดงความเห็นโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรหรือให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และเป็นอั้งยี่ฯ”
เหตุเกิดที่ สปป.ล และ ต.สำโรงใต้ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขัง
ต่อมาทนายความยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฝากขัง
ศาลพิจารณาแล้ว อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา โดยตีราคาประกัน 2 แสนบาท โดยไม่ได้กำหนดเงื่อนไขใดๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี