วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ความล้ำหน้าของเทคโนโลยีหรือไอที นำไปสู่การคิดค้น “นวัตกรรม”ใหม่ ไม่เว้นแม้แต่ภาคเกษตรกรรม ที่ต้องปรับเปลี่ยน ปรับตัว หาช่องทางสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าเกษตร เพื่อสร้างโอกาสในการแข่งขันในโลก ที่เปลี่ยนไปเร็วเพียงพลิกฝ่ามือ ซึ่งก็หมายถึงงานค้นคว้าวิจัยต่างๆ ก็ต้องพัฒนา ให้สอดรับกับสถานการณ์
ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เผยโฉมงานวิจัยชิ้นล่า 3 ผลงานโบแดง ที่น่าสนใจ เพื่อเกษตรกร ผู้ประกอบการและผู้บริโภค จะได้ประโยชน์จากการนำไปใช้จริง อีกทั้ง ยังช่วยยกระดับ เพิ่มมูลค่าให้สินค้าเกษตรไทยไปไกลถึงระดับสากล
งานวิจัยอันทรงคุณค่าที่ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ภูมิใจนำเสนอ เริ่มจาก “แอพพลิเคชั่นออร์แกนิค” (Organic Ledger) โดยผศ.ดร.ดุสิต อธินุวัฒน์ จากสาขาเทคโนโลยีการเกษตร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. ประโยชน์คือ บันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องผลผลิตทางการเกษตรทั้ง ชื่อเกษตรกร ฟาร์มและสถานที่ตั้ง ช่องทางติดต่อ ขั้นตอนเพาะปลูก รวมถึงวันและเวลาเก็บเกี่ยว พร้อมผลตรวจสอบลักษณะของผลผลิตดังกล่าวว่าเป็นไปตามมาตรฐานสากลของผลิตภัณฑ์อินทรีย์ ตามฐานข้อมูลของมูลนิธิเกษตรอินทรีย์ไทยหรือไม่ และเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ผู้บริโภค ยังมีการออกใบรับรองแบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้ฟาร์มหรือผู้ผลิตที่มีผลิตสินค้าทางการเกษตรแบบไร้สารปนเปื้อน ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่าย เพียงการสแกนคิวอาร์ โค้ด (QR Code) ที่ติดไว้บนฉลากสินค้า ก็จะทราบข้อมูลสำคัญทั้งหมด
ชิ้นต่อมาเป็น “นวัตกรรมแถบสีบอกความสุกผลไม้ (Bio-ripeness indicator) และนวัตกรรมชะลอการสุกมะม่วง” สร้างสรรค์โดย รศ.ดร.วรภัทร ลัคนทินวงศ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีการเกษตร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. จุดเด่นอยู่ที่ มุ่งลดอัตราการเสียหายของสินค้าการเกษตรเมื่อวางจำหน่าย จากการถูกบีบหรือกดในการเลือกซื้อ องค์ประกอบของผลงานชิ้นนี้ ใช้สารละลายกระตุ้นการสร้างสารสีคลอโรฟิลล์ (chlorophyll supplement)ให้มีปริมาณมากขึ้นพร้อมชะลอการทำงานของเอนไซม์ที่ทำหน้าที่สลายคลอโรฟิลล์ในมะม่วง ชะลอการสุกได้สูงถึง 30 วันโดยไม่ทิ้งสารตกค้าง และแถบสีอินดิเคเตอร์(Indicator) แถบสีแสดงการสุกของเนื้อมะม่วง 4 ระยะคือ สีเขียว-เนื้อมะม่วงที่ยังดิบ สีเหลืองอ่อน-เนื้อมะม่วงที่เริ่มสุก สีเหลือง-เนื้อมะม่วงที่พร้อมรับประทาน และ สีเหลืองเข้ม-เนื้อมะม่วงที่สุกเกินมาตรฐาน
ส่วนอีกหนึ่งนวัตกรรม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เปิดตัวคือ “ฟิล์ม ทูฟลาย” (Film to Fly) ผลงานของ ผศ.ดร.ดุสิต อธินุวัฒน์ จากสาขาเทคโนโลยีการเกษตร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. ร่วมกับนางสาวพรรณวดี จันทร์ทองนักศึกษา สาขาวิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. พัฒนาขึ้นเพื่อชะลอความสุกของพืชผลเกษตรจากใบยี่หร่า ชะลอสุกกล้วยหอม นาน 2 เดือน ด้วยเทคนิคการเคลือบแบบบริโภคได้ไม่ทิ้งสารเคมีตกค้าง พร้อมรักษาสภาพผิวให้สวยงาม และป้องกันการเกิดโรคขั้วหวีเน่าในผลผลิต หลังเก็บเกี่ยวและระหว่างการขนส่ง นอกจากนี้ ยังใช้ชะลอสุกได้กับมะละกอ และมะม่วงน้ำดอกไม้ด้วย
นอกจากการเปิดตัว 3 นวัตกรรมครั้งนี้มธ.ยังเปิดกว้างสำหรับผู้สนใจ ติดตามข้อมูลรายละเอียดอื่นๆ ได้ผ่านเว็บไซต์ www.tu.ac.th/news ซึ่งไม่ได้มีเพียง 3 นวัตกรรมเพื่อการเกษตรเท่านั้น แต่เป็นอีกช่องทางติดตามข้อมูล งานวิจัยที่จะมีออกมาต่อเนื่องแน่นอนในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี