ศูนย์เฉพาะกิจฯเตือน 38 จังหวัด ฝนยังหนักต่อเนื่อง แม้ “มังคุด” สลายตัวแล้ว แต่อิทธิพลมรสุมทำให้ไทยมีฝนตกต่อเนื่องและหนัก 20-24 กันยายน พร้อมสั่งเฝ้าระวังพิเศษ 6 เขื่อนใหญ่น้ำมากรวมเขื่อนลำตะคอง ขณะ “บางปะอิน” เตรียมรับมือป้องกัน นิคมฯบ้านหว้า-ไฮเทค ตั้งเครื่องสูบน้ำลงเจ้าพระยา ส่วนกทม.ผู้ว่าฯ ลุยฝั่งตะวันออกที่ลุ่มรับน้ำ ห่วงจม
เมื่อวันที่ 19 กันยายน นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ แถลงภาพรวมสถานการณ์น้ำประจำวันของประเทศว่า พายุมังคุดสลายตัวแล้ว แต่ประเทศไทยยังได้รับอิทธิพลจากร่องความกดอากาศต่ำที่อ่าวเบงกอล ส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้พื้นที่ที่รับลมมรสุมด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางพื้นที่
โดยพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนัก 38 จังหวัดได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก ลำพูน ลำปาง สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี พังงา นครศรีธรรมราช พัทลุง กระบี่ ภูเก็ต ตรัง สตูล สงขลา
เตือนฝนตกหนัก20-24ก.ย.
“จากการคาดการณ์ฝนตั้งแต่วันที่ 20-24 กันยายน พบ ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ยังมีฝนตกต่อเนื่อง มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะเริ่มมีปริมาณฝนลดลง”นายสำเริงกล่าว และว่า ขณะเดียวกันศูนย์เฉพาะกิจฯ ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในแม่น้ำ - ลำน้ำสำคัญที่มีระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งและยังมีฝนตกต่อเนื่อง ได้แก่ แม่น้ำน่าน อ.เวียงสา จ.น่าน แม่น้ำนครนายก บริเวณ อ.องครักษ์ จ.นครนายก แม่น้ำปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำแควใหญ่ จ.กาญจนบุรี และแม่น้ำในภาคใต้ คลองละงู บริเวณ ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล คลองนางน้อย ต.นาโยงใต้ อ.เมือง จ.ตรัง
เพิ่มเฝ้าระวังพิเศษ“ลำตะคอง”
สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ระดับน้ำเกินเกณฑ์ควบคุม และปริมาณน้ำเกินร้อยละ80 ของความจุที่ยังต้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์พิเศษมีทั้ง 6 แห่งได้แก่ เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร ร้อยละ102เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี คิดเป็นร้อยะ 97เขื่อนนฤบดินทรจินดา จ.ปราจีนบุรีร้อยละ94 เขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี ร้อยละ93 เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก ร้อยละ86ล่าสุด ศูนย์เฉพาะกิจฯ เพิ่มการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์เขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา อีก 1 แห่ง มีปริมาณน้ำ 258 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ82 ทั้งนี้ จะปรับแผนการระบายน้ำตามสภาพน้ำท่าที่ไหลเข้าอ่างฯ และต้องติดตามสถานการณ์ฝนในพื้นที่
บางปะอินเตรียมพร้อมติดเครื่องสูบน้ำ
อีกด้านหนึ่งมีการเตรียมมาตรการรับมือน้ำท่วมจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องหลายจังหวัด โดยเฉพาะจุดเสี่ยง ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ นายไพรัตน์ เพชรยวน นายอำเภอบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยาเผยว่า หลังเกิดเฝนตกหนักต่อเนื่องอาจเกิดภาวะน้ำท่วมขังได้ เพราะน้ำระบายไม่ทัน ซึ่งนายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยากำชับแต่ละพื้นที่ให้เตรียมรับมือล่วงหน้าในการป้องกันน้ำท่วม สำหรับอ.บางปะอิน มีเขตนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า-ไฮเทค จึงร่วมกับชลประทานติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่บริเวณประตูระบายน้ำบ้านเลน หมู่ 2 ต.บ้านเลน ถ้าเกิดน้ำท่วมฉับพลันจะระบายลงคลองลงแม่น้ำเจ้าพระยาตามแผนที่วางไว้ โดยไม่ให้กระทบชุมชนสองฝั่งที่เป็นเส้นทางน้ำไหลผ่านจากพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมไปลงแม่น้ำเจ้าพระยา
ผู้ว่าฯตรวจกทม.ฝั่งตอ.ห่วงท่วม
ส่วนกรุงเทพมหานคร วันเดียวกัน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมการบริหารจัดการน้ำเหนือในคลองแสนแสบ ที่ประตูระบายน้ำคลองแสนแสบ ซึ่งเป็นประตูระบายน้ำควบคุมระดับน้ำในพื้นที่ด้านตะวันออกของกทม.และเป็นจุดรับน้ำจากแม่น้ำป่าสัก ผ่านคลองระพีพัฒน์ใต้ ก่อนถึงประตูระบายน้ำฯ เข้ากรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก จากนั้นลงเรือตรวจการณ์เยี่ยมประชาชนที่อยู่ริมคลองแสนแสบ นอกแนวคันกั้นน้ำตามแนวพระราชดำริ ตั้งแต่ประตูระบายน้ำคลองแสนแสบมีนบุรี จนถึงมัสยิดกมาลุลอิสลาม
พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า ฝนที่ตกหนักติดต่อกันในกทม.จะมีต่อเนื่องไปจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ขณะนี้วัดปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสมมีมากกว่า 200 มิลลิเมตร ถือว่าสูงกว่าปี 2560 ในช่วงเดียวกัน พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือ กรุงเทพฯฝั่งตะวันออก ในเขตหนองจอก ลาดกระบัง คลองสามวา ซึ่งเป็นที่ลุ่ม พื้นที่รับน้ำ ฝนที่ตกมากทำให้น้ำตามคูคลองและน้ำในทุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองแสนแสบสูงขึ้นรวดเร็ว ทำให้เกิดน้ำท่วมตลิ่ง กระทบประชาชนที่อาศัยตามแนวคลองแสบแสบฝั่งตะวันออก และพื้นที่เกษตรกรรมได้ ขณะนี้พื้นที่ดังกล่าวมีระดับน้ำสูง 0.87 ม.รทก.กทม.จึงต้องเร่งการระบายออกจากพื้นที่ ลงแม่น้ำบางปะกง ออกทะเล ผ่านอุโมงค์ระบายน้ำพระราม9 สู่แม่น้ำเจ้าพระยา นอกจากนี้ กทม.ยังต้องเฝ้าระวังน้ำเหนือ น้ำทะเลหนุนด้วย แม้ยังไม่วิกฤติ แต่ก็ต้องหารือกับกรมชลประทานวางแผนรับมือไว้ก่อน
อุตุ เตือนทุกภาคยังมีฝนต่อเนื่อง
กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณด้านรับลมมรสุมของภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอล ทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้จึงทำให้บริเวณด้านรับลมมรสุมของประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง
พบอีก1ศพผู้อพยพเหลือหายอีก5
ขณะที่จ.แม่ฮ่องสอน นายเรืองฤทธิ์ ผลดี ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยความคืบหน้าการค้นหาศพผู้สูญหายจากเหตุดินภูเขาถล่มทับบ้านพักในศูนย์อพยพแม่ละอูนตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนว่า ช่วงเช้าวันนี้ ชุดค้นหาพบศพผู้สูญหายเป็นเด็กอีก1 ราย ชื่อ ด.ช.ซอแอะ คริสเซ อายุ 3 ปี อยู่ริมแม่น้ำยวม ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 15 กิโลเมตร รวมพบศพแล้ว 2 ราย ทำให้ยอดผู้สูญหายจาก 7 ราย เหลือเพียง 5 ราย ซึ่งทหาร และชุดกู้ภัยร่วมกับชาวบ้าน 300 คน ยังเดินหน้าค้นหาต่อเนื่องทั้งทางบก ทางน้ำต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี