21 ก.ย.61 พลเรือตรี ปกรณ์ ปั่นสวัสดิ์ รองเสนาธิการ กองเรือยุทธการ เป็นประธานในการประชุมรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 1 โครงการออกแบบและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล พื้นที่ชายฝั่งอ่าวดงตาล หมู่ที่ 2 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ณ สโมสรสัญญาบัตร กองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมีนายไพโรจน์ เทศอ่ำ วิศวกรโยธาชำนาญการนา ผู้แทนกรมโยธาธิการและผังเมือง หัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน และชาวตำบลสัตหีบ ร่วมเข้าประชุมรับฟังความคิดเห็น
นายไพโรจน์ เทศอ่ำ วิศวกรโยธาชำนาญการ ผู้แทนกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ตระหนักถึงปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง จึงได้จัดทำโครงการเพื่อออกแบบและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล เพื่อป้องกันทรัพย์สินของทางราชการ และประชาชนมิให้คลื่นกัดเซาะได้รับความเสียหาย สำหรับพื้นที่ชายฝั่งอ่าวดงตาล อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งอยู่ในพื้นที่กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ และเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ชายฝั่งประสบปัญหาการกัดเซาะ
โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง จึงได้ดำเนินการออกแบบและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม เขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลความยาวประมาณ 1,500 เมตร ตั้งแต่หน้าจนถึงสโมสรสัญญาบัตร กองเรือยุทธการ ไปจนถึง สะพานคลองธูป หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เพื่อให้ครอบคลุมแนวชายฝั่งเดิมที่ประสบปัญหาการชำรุดและถูกการกัดเซาะ ในปัจจุบันโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลที่มีลักษณะเป็นกำแพงริมชายฝั่ง ติดแนวชายฝั่งทุกขนาด ไม่เข้าข่ายต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่เพื่อให้การดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ชุมชนและสังคม วัฒนธรรม อาชีพ ความปลอดภัย และวิธีชีวิตน้อยที่สุด กรมโยธาธิการและผังเมืองจึงได้ดำเนินการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (ไออีอี) ควบคู่ไปกับการสำรวจออกแบบเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลในครั้งนี้ด้วย
พลเรือตรี ปกรณ์ ปั่นสวัสดิ์ รองเสนาธิการ กองเรือยุทธการ กล่าวว่าพื้นที่ชายฝั่ง อ่าวดงตาล อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จากการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ทำให้ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ซึ่งสร้างความเสียหายทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และก่อให้เกิดผลกระทบด้านสังคม การดำรงชีวิตของประชาชนในพื้นทีเป็นอย่างมาก ก็เช่นกัน ดังนั้นการที่กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ความยาว 1,500 เมตร เพื่อให้ครอบคลุมแนวชายฝั่งที่ประสบปัญหาการกัดเซาะ จะก่อให้เกิดผลดีต่อท้องถิ่นทั้งในด้าน เศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวของท้องถิ่น
'จากรายงานของผู้แทนกรมโยธาธิการและผังเมือง ที่ระบุว่าการดำเนินโครงการในครั้งนี้ ได้ให้ความสำคัญต่อกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อเป็นการลดผลกระทบต่อชุมชน และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนในท้องถิ่น และชาวจังหวัดชลบุรีทุกคน ผมเชื่อมั่นว่าทุกท่านที่ร่วมอยู่ในที่ประชุมแห่งนี้ มีศักยภาพและข้อมูลที่เพียงพอ และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการแสดงความคิดเห็น ในแง่มุมต่างๆที่หลากหลาย เพื่อหน่วยงานจะได้นำแนวคิดที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็น ไปบูรณาการร่วมกับการศึกษาด้านอื่น เพื่อลดผลกระทบและสนองต่อความต้องการของชุมชนได้อย่างเป็นรูปธรรม'
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี