มั่วซี้นายกฯ! รวบ‘นายพลเก๊’ อ้างเป็นอดีตผู้การเชียงใหม่ ตุ๋นเหยื่อวิ่งเต้นคดี
21 ก.ย.61 ที่ห้องประชุม ศปก.สน.บางซื่อ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(รอง ผบช.ทท.) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ. บช.ทท. และเจ้าหน้าที่ตรวจ สน.บางซื่อ แถลงผลการจับกุม นายภูมิภัทร ภัทรธำรงค์ อายุ 66 ปี ในข้อหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่งกายเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงาน (ตำรวจ) โดยไม่มีสิทธิใช้ยศ ตำแหน่ง เครื่องราชอิสริยาภรณ์ หรือสิ่งที่หมายถึงเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พร้อมของกลางนามบัตร เอกสารการเปลี่ยนชื่อ บัตรอิเล็กทรอนิกส์ (เอทีเอ็ม) จำนวน 3 ใบ โทรศัพท์ จำนวน 2 เครื่อง จับกุมได้ภายในกรมการขนส่งทางบก ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า นายจิรกิตติ์ พลอยประยูร หรือนายภูมิภัทร ภัทรธำรง หรือจิรกิตติ์ จีบภิญโญ อายุ 66 ปี มีพฤติการณ์หลอกลวงผู้เสียหายว่าตัวเองเป็น พล.ต.ต.จิรกิตติ์ จีบภิญโญ อดีตผู้การเชียงใหม่ จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 28
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาจะเดินทางไปสถานีตำรวจโรงพักที่ต่าง ๆ และอ้างตัวกับตำรวจที่ไปพบว่าตนเป็นอดีตผู้การ จบ นรต.รุ่นที่ 28 ขอความช่วยเหลือให้ตำรวจอำนวยความสะดวกกับคดี โดยฝากให้กับเพื่อนร่วมรุ่น นรต.รุ่นที่ 28 ที่เป็นผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนมีนายตำรวจหลายคนหลงเชื่อพฤติกรรมของผู้ต้องหา
นอกจากนี้ยังหลอกลวงผู้อื่นโดยการทำนามบัตรยศ พล.ต.ต. มีภาพถ่ายผู้ต้องหาใส่เครื่องแบบตำรวจชุดขาวติดยศ พล.ต.ต. ใส่สายสะพายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นที่ 3 ลงภาพในเฟสบุ๊ค จนมีผู้หลงเชื่อว่าเป็นอดีตผู้การตำรวจจริงและถูกหลอกลวงเสียหายจำนวนหลายราย
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้าการจับกุมครั้งนี้ ผู้ต้องหาได้โทรมาที่ห้องวิทยุ สน.บางซื่อ เพื่อถามหาสารวัตรป้องกันปราบปรามสน.บางซื่อ ว่าคนใดเข้าเวร และขอหมายเลขโทรศัพท์เพื่อประสานจากนั้นจึงโทรไปหาแล้วอ้างว่าตัวเองเป็นอดีตผู้การฯ นรต.รุ่นที่ 28 จะเดินทางมาติดต่อที่กรมการขนส่งทางบก เขตจตุจักร กทม. และขอให้ช่วยในการอำนวยความสะดวก ต่อมาพบพิรุธสอบถามพบว่าไม่ได้เป็น พล.ต.ต. ตามนามบัตรที่กล่าวอ้างจริง และไม่ได้เป็นตำรวจจริง และไม่ได้เรียนจบโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 28 จริง จึงได้ทำการเชิญตัวมาที่ สน.บางซื่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
“คาดว่าก่อเหตุมาหลายพื้นที่ นานกว่า 1 ปี มีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 5 คน โดยมีการอ้างตัวเองว่ารุ่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และเป็นอดีตผู้การเชียงใหม่ จากการสอบถาม นายภูมิภัทร ทราบว่าก่อนหน้านี้เคยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ยศ พ.ต.ท.ในตำแหน่ง สว.ธุรการ สน.เตาปูน ก่อนจะถูกให้ออกราชการ เนื่องจากไปพัวพันเกี่ยวกับคดียาเสพติด เมื่อปี 2549 ที่ผ่านมา แต่นายภูมิภัทร ยังให้การภาคเสธว่าไม่ได้ทำการหลอกชาวบ้าน ว่าสามารถไกล่เกลี่ยคดีได้ และไม่ได้ถูกไล่ออกด้วยคดียาเสพติด แต่เป็นคนลาออกเอง” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าว
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า ทางเจ้าหน้าที่มีหลักฐานในการดำเนินคดีผู้ต้องหารายนี้ เนื่องจากมีหลักฐานทั้งวัตถุและทราบว่ามีผู้เสียหาย 1 ราย เป็นชาว จ.กาญจนบุรี ศูนย์เงินไปกว่า 5 แสนบาท ซึ่งกำลังเดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ค “สุรเชษฐ์ หักพาล”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี