สทนช.ลุ้นพายุ‘จ่ามี’
คาดไม่กระทบไทย
ยังเฝ้าระวัง7เขื่อน
ป้องกันปัญหาน้ำล้น
สทนช. ยันพายุโซนร้อน “จ่ามี” ไม่กระทบไทย เผยเฝ้าระวังเขื่อนเสี่ยงน้ำล้น 7 แห่ง รวมถึงแม่น้ำในภาคตะวันออกจากฝนตกสะสมต่อเนื่อง
วันที่ 22 ก.ย. 2561 นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 22 - 27 ก.ย. 2561 เป็นช่วงที่ปริมาณฝนน้อยลงเกือบทุกภาค เนื่องจากลมมรสุมที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อน ทั้งนี้จะมีมวลอากาศเย็นปกคลุม แต่อาจจะแผ่ลงมาอีกกระลอกช่วงวันที่ 28 - 29 ก.ย. ซึ่งจะมีฝนและฝนฟ้าคะนองในระยะแรกๆ แต่ปริมาณฝนที่จะตกลงมาเติมน้ำในเขื่อนหรือลุ่มน้ำต่างๆ นั้นไม่มีผลมากนัก
ขณะที่การติดตามสถานการณ์พายุในมหาสมุทรแปซิฟิกลูกที่ 28 ชื่อว่า “จ่ามี” (Trami) ล่าสุดได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนแล้วซึ่งกำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนไปทางเหนือ แต่คาดว่าไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย ส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ หรือที่มีน้ำเกิน 80 เปอร์เซ็นต์ของความจุ จำนวน 7 แห่งนั้นปัจจุบันยังเร่งพร่องน้ำเพื่อให้กลับสู่ระดับควบคุมปกติอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ 1.เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร ปริมาณน้ำ 526 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น 101 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณน้ำไหลเข้า 2.61 ล้าน ลบ.ม. ระบายออก 4.33 ล้าน ลบ.ม.
2.เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ปริมาณน้ำ 684 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 96 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณน้ำไหลเข้า 5.64 ล้าน ลบ.ม. ระบายออก 8.67 ล้าน ลบ.ม. 3.เขื่อนกิ่วคอหมา จ.ลำปาง ปริมาณน้ำ 159 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 93 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณน้ำไหลเข้า 2.33 ล้าน ลบ.ม. ระบายออก 1.92 ล้าน ลบ.ม. 4.เขื่อนนฤบดินทรจินดา จ.ปราจีนบุรี ปริมาณน้ำ 270 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 92 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณน้ำไหลเข้า 2.96 ล้าน ลบ.ม. ระบายออก 6.52 ล้าน ลบ.ม.
5.เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก ปริมาณน้ำ 202 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณน้ำไหลเข้า 2.65 ล้าน ลบ.ม. ระบายออก 1.34 ล้าน ลบ.ม. น้ำไหลผ่านทางระบายน้ำล้นสูง 2.78 ม. 6.เขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา ปริมาณน้ำ 263 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 84 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณน้ำไหลเข้า 1.99 ล้าน ลบ.ม. ระบายออก 0.32 ล้าน ลบ.ม. และ 7.เขื่อนคลองสียัด จ.ฉะเชิงเทราปริมาณน้ำ 347 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 83% ปริมาณน้ำไหลเข้า 2.12 ล้าน ลบ.ม. ไม่มีปริมาณน้ำไหลออก ส่วนแม่น้ำต่างๆ ที่มีน้ำสูงกว่าระดับตลิ่ง ได้แก่
1.แม่น้ำป่าสัก อ.หล่มสัก อ.เมืองเพชรบูรณ์ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ แนวโน้มเพิ่มขึ้น 2.แม่น้ำสงคราม จ.สกลนคร แนวโน้มลดลง ห้วยหลวง จ.อุดรธานี แนวโน้มลดลง 3.แม่น้ำนครนายก บริเวณ อ.องครักษ์ จ.นครนายก แนวโน้มทรงตัว 4.แม่น้ำบางปะกง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา แนวโน้มทรงตัวและคลองพระปรง อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว แนวโน้มลดลง ทั้งนี้ ให้เฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำภาคตะวันออกเนื่องจากปริมาณฝนตกสะสมที่ผ่านมา และยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ส่วนภาคกลางและภาคใต้ไม่มีน้ำสูงกว่าระดับตลิ่ง
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 22 - 28 ก.ย. 2561 โดยในช่วงวันที่ 22 - 23 ก.ย. 2561 หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ทำให้ภาคตะวันออกและภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง ประกอบกับมีลมตะวันออกพัดปกคลุมประเทศไทย สำหรับภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ส่วนวันที่ 24 - 28 ก.ย. 2561 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวรวมถึงทั่วประเทศไทยมีปริมาณฝนลดลง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี