23 ก.ย.61 จากกรณีที่ชาวบ้านร้องเรียนผ่าน นคร 24 ชม. สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช และผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้แก้ไขความเดือนร้อนให้ประชาชน กรณีบ่อดินขนาดใหญ่รุกล้ำเข้ามาในที่สวนปาล์ม ทำให้รั้วลวดหนามและหลักโฉนทที่ดินของนายบ่าว อายุ 77 ปี และนางยุพิน สินทะ อายุ 78 ปี สองสามีภรรยาวัยชรา อยู่บ้านเลขที่ 52/1 หมู่ 1 ต.ดอนตะโก อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช โดยนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งการให้นายตระกูล หนูนิล ป้องป้องกันจังหวัดนครศรีธรรมราช นายนายไตรรัตน์ ไชยรัตน์ นายอำเภอท่าศาลานางจิราภา รอดเพชร หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมนครศรีธรรมราช พร้อมผู้แทนอุตสาหกรรมจังหวัด เจ้าพนักงานที่ดิน และผู้แทน อบต.ดอนตะโก รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง
โดยการตรวจสอบพบว่า บ่อดินดังกล่าวเป็นบ่อดินขนาดใหญ่จำนวน 2 บ่อ ที่ผู้รับเหมาขุดดินไปถมพื้นที่ท่าอากาศยานหรือสนามบินนครศรีธรรมราช ที่จะมีการขยายรันเวย์ และทำแนวคันดินป้องกันน้ำท่วม ซึ่งมีการขุดลุกประมาณ 20 เมตร และพบกับนายทนงศักดิ์ ระวังวงศ์ทหรือ “โกหยิก”ผู้ประกอบการขุดลอกกรวดดิน เพื่อใช้ในการก่อสร้าง ตรวจสอบพบว่ามีหลักฐานเลขทะเบียนโรงงาน จ 3 – 3 ( 2 ) – 217 / 55 นครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ตามโฉนดที่ดินเลขที่ 7411 เลขที่ดิน 34 หมู่ 1 ต.ดอนตะโก อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าบ่อดินจำนวน 2 บ่อติดกันมีอนุญาตถูกต้อง 1 บ่ออีก 1 บ่อไม่มีใบอนุญาต โดยผู้ประกอบการอ้างว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการ จึงให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมาย และสั่งให้ผู้ประกอบการระงับการขุดตักหน้าดินจำหน่ายไว้ก่อนจนกว่าจะมีการตรวจสอบรังวัดที่ดินข้อพิพาทที่ชาวบ้านผู้เสียหายอ้างว่าผู้ประกอบการขุดตัดหน้าที่ลุกล้ำที่ดิน และทำลายรั้วลวดหนาม หลักหมุดโฉนดที่ดิน รวมทั้งดำเนินการขออนุญาตให้ถูกต้อง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า วันที่ 23 ก.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวานนี้ (22 ก.ย.) เจ้าหน้าที่รังสัดที่ดินและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบรัววัดแนวเขตที่ดิน โดยมีเจ้าของที่ดินและสื่อมวลชนร่วมเป็นสักขีพยาน ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบรรยากาศการดำเนินการตรวจสอบรังสัดเป็นไปด้วยดี ถ้อยทีถ้อยอาศัย โดยนายทะนงศักดิ์ หรือ “โกหยิก”ผู้ประกอบการยอมรับว่าดูเฉพาะโฉนดที่ดินในแปลงของตัวเองเป็นหลัก จึงคิดว่าหลักหมุดในจุดเชื่อมต่อกับที่ดินของนายบ่าว และนางยุพิน มีหลักหมุดเดียว แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าจุดดังกล่าวมีหลักหมุด 2 หลัก เยื้องห่างกันประมาณ 2 เมตร โดยสรุปคนงานได้ขุดดินล้ำเข้าไปในที่ดินของนายบ่าวจริง แต่ขุดไม่มากนัก ซึ่งตนจะนำดินกลับมาถมให้เหมือนเดิม และจะทำคันดินกั้นเป็นแนวเขตที่ดินของตนเองให้ชัดเจนกว้าง 3 เมตร เพื่อป้องกันการรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของนายบ่าว และนางยุพินอีก ส่วนในจุดอื่น ๆ ที่รถบรรทุกดินขับเบียดจนเสารั้วลวดหยามของนายบ่าวหักล้มเสียหายตนก็จะรับผิดชอบซ่อมแซมทั้งหมด
ด้านนายวัฒนา สินทะ บุตรชายของนายบ่าว นางยุพิน กล่าวว่า เมื่อผู้ประกอบการยอมรับว่ามีการล่วงล้ำเข้ามาในที่ดินของพ่อ แม่ของตนจริง และยอมรับผิดชอบที่จะปรับปรุงแก้ไขในทุกส่วนให้ ตนพร้อมด้วยพ่อ และแม่ก็พอใจและไม่ติดใจใดๆอีก โดยในความเป็นจริงในกลุ่มของผู้ประกอบการและหุ้นส่วนเป็นคนรู้จักดี ๆ กันทั้งนั้น ไม่อยากให้เรื่องลุกลามบานปลาย อยากให้อยู่กับแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย มีอะไรก็ช่วยเหลือเกื้อกูลกันตามวิถีคนในหมู่บ้านเดียวกัน โดยวันจันทร์ที่ 24 ก.ย. นี้ ทั้งสองฝ่ายจะเดินทางไปทำบันทึกข้อตกลงอย่างเป็นทางการ ที่ว่าการอำเภอท่าศาลา เพื่อให้ผู้ประกอบการใช้เป็นหลักฐานในการยื่นขออนุญาตประกอบการบ่อดินตามระเบียบกฎหมาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี