บุรีรัมย์ฝนทิ้งช่วงยาวนาน ส่งผลกระทบอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มากแหล่งน้ำดิบ ที่ใช้ผลิตประปาหล่อเลี้ยงประชาชนและเขตเศรษฐกิจสำคัญเมืองบุรีรัมย์ มีน้ำกักเก็บเพียง 7 แสนลูกบาศก์เมตร ไม่ถึง 3 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณความจุอ่าง 26 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะชลประทานเร่งสูบผันน้ำจากลำมาศสำรองหวั่นเกิดวิกฤต
24 ก.ย.61 สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั้งขนาดใหญ่ และขนาดกลางที่อยู่ในความดูแลของโครงการชลประทานจังหวัดบุรีรัมย์ทั้ง 16 แห่ง มีปริมาณน้ำกักเก็บต่ำในรอบหลายปี โดยปัจจุบันมีน้ำในอ่างเพียง 98 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 33 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณความจุอ่างทั้งหมด 294 ล้านลูกบาศก์เมตร และจากการสำรวจพบว่ามีอ่างเก็บน้ำที่มีระดับต่ำกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ จำนวน 8 แห่ง โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบสำคัญที่ใช้ในการผลิตประปาหล่อเลี้ยงประชาชนและเขตเศรษฐกิจสำคัญในพื้นที่ตัวเมืองบุรีรัมย์
ล่าสุดมีน้ำเหลือเพียง 7 แสนลูกบาศก์เมตรเท่านั้น ไม่ถึง 3 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณความจุอ่างกว่า 26ล้านลูกบาศก์เมตร และหากเปรียบเทียบในช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมามีน้ำกักเก็บในอ่างถึง 23 ล้านลูกบาศก์เมตร ถือว่าค่อนข้างน่าเป็นห่วง โดยสาเหตุที่ปีนี้ปริมาณน้ำในอ่างน้อยเนื่องจากประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงยาวนานติดต่อกันหลายเดือน ถึงแม้จะมีการทำฝนหลวงในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง แต่ฝนก็ไม่ตกในพื้นที่รับน้ำ
นายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานบุรีรัมย์ ระบุว่า จากสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่ค่อนข้างลดต่ำในปีนี้ โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่ต้องใช้ผลิตประปาหล่อเลี้ยงเขตเศรษฐกิจในตัวเมืองบุรีรัมย์ เฉลี่ยเดือนละกว่า 1,600,000 ลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีน้ำเหลือเพียง 7 แสนลูกบาศก์เมตร เนื่องจากฝนทิ้งช่วงนานหลายเดือน
ขณะนี้ทางชลประทานก็ได้ทำการสูบผันน้ำจากลำน้ำมาศ ระยะทาง 16 กิโลเมตร เข้ามาเติมสำรองไว้ในอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มากแล้วเฉลี่ยวันละ 50,000-100,000 ลูกบาศก์เมตร โดยจะสูบไปเรื่อยๆ จนกว่าลำน้ำมาศจะหลุดไหล เพื่อให้มีน้ำกักเก็บในอ่างไม่ต่ำกว่า 14-15 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงจะเพียงพอในการผลิตประปาหล่อเลี้ยงประชาชนและเขตเศรษฐกิจได้ตลอดทั้งปี
ขณะที่ชาวบ้าน เกษตรกร บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ปีนี้ฝนตกน้อยและทิ้งช่วงส่งผลให้น้ำในอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำธรรมชาติตื้นเขิน ทั้งยังกระทบพื้นที่นาข้าว พืชไร่ พืชสวน ของเกษตรกรในหลายพื้นที่ต้องขาดน้ำหล่อเลี้ยงทยอยยืนต้นตาย ซึ่งปีนี้ถือว่าประสบปัญหาแล้งสุดในรอบหลายปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี