จี้‘ประยุทธ์’ปลดล็อกกัญชา
ใช้ม.44จัดการ
เพื่อเกิดประโยชน์
ในทางการแพทย์
สนช.เล็งล่า 20 ชื่อ ชงร่างกฎหมายไฟเขียว “กัญชา” เพื่อใช้ในการแพทย์ แนะ รัฐบาลใช้ ม.44 ปลดล็อกทันที
เมื่อวันที่ 24 กันยายน น.พ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) ในฐานะรองประธานกมธ.วิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. ... และร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด คนที่สอง กล่าวถึง ความคืบหน้าการพิจารณาเนื้อหาการถอดกัญชาออกจากยาเสพติดประเภท 5 เพื่อใช้ทางการแพทย์เท่านั้น ว่า แนวคิดนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาของ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างประมวลกม.ยาเสพติด ร่าง พรบ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติดและร่างพ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลฯ รวม 3 ฉบับ การพิจารณาค่อนข้างช้า และมีรายละเอียดเยอะ แต่ละประเด็นยังมีความเห็นต่างกันมาก จึงเป็นห่วงว่าร่างกฎหมายจะพิจารณาไม่ทันในสมัยนี้
นอกจากนี้ ยังมีข้อจำกัดที่แม้จะถอดกัญชาออกจากยาเสพติดประเภทที่ 5 ในร่างกฎหมายเดิมที่ยังไม่ได้พิจารณาจะกำหนดพื้นที่เฉพาะให้เพียงเป็นพื้นที่ทดลองทางวิชาการสำหรับงานวิจัยทางการแพทย์เท่านั้น “ที่ผ่านมาในการอภิปรายร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสภาฯ มีข้อเสนอให้เสนอเป็นร่างกฎหมายอีกหนึ่งฉบับแยกออก เพื่อให้แก้ไขในส่วนที่ ให้ถอดกัญชาออกจากยาเสพติดประเภท 5 สำหรับใช้ในการแพทย์เท่านั้น ไม่ให้ใช้สำหรับการบันเทิง ดังนั้น กลุ่ม สนช. จึงจะเริ่มล่ารายชื่อให้ได้ 20 รายชื่อ ตามรัฐธรรมนูญพ.ศ. 2560 มาตรา 133 เพื่อเสนอร่างกฎหมายตามเนื้อหาดังกล่าว ให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อวงการการแพทย์และสาธารณสุขต่อไป” นพ.เจตน์ กล่าว
นพ.เจตน์ กล่าวด้วยว่าโดยขั้นตอนก็ต้องมีการรับฟังความคิดเห็นประชาชนตามมาตรา 77 ประกอบด้วย ทั้งนี้ หากรัฐบาลยอมใช้มาตรา 44 เพื่อปลดล็อก ก็สามารถทำได้ทันที เพื่อประโยชน์ของคนไทยและผู้ป่วยอีกจำนวนมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี