‘อัจฉริยะ’พาพยานเด็ดอ้างรู้เห็นล้มคดี‘เอมี่’พบตร. ปูดอีกทนายดังเรียกเงินวิ่งเต้น5คดี
จากกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร้องเรียนต่อ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) โดยอ้างว่าได้รับร้องเรียนจากพลเมืองดีว่าคดียาเสพติดที่มีนายปุณยวัจน์ หิรัณย์เตชะ และ น.ส.อาเมเรีย หรือเอมี่ จาคอป อดีตมิสทีนไทยแลนด์ ปี 2006 แฟนสาว ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายฝ่ายร่วมกันทุจริตในการช่วยเหลือ น.ส.อาเมเรีย ให้หลุดพ้นคดีร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดในชั้นศาล ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันนี้(26 ก.ย.61) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายอัจฉริยะ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ชาญเทพ เพื่อมอบเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม โดยกล่าวว่าได้นำหลักฐานมามอบเพิ่มเติม และพาพยานที่รู้เรื่องการวิ่งเต้นล้มคดีของเอมี่ มาให้ปากคำกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อนำเข้าสู่สำนวน
สำหรับหลักฐานที่นำมามอบเป็นหลักฐานการค้าสำนวนของพนักงานสอบสวน ที่นำไปให้ทีมงานของจำเลยดู เพื่อหาช่องโหว่ในการต่อสู้จนคดีชนะ โดยคดีของเอมี่มีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 13 คน มีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และพลเรือน หนึ่งในนั้นมีทนายความชื่อดังร่วมอยู่ด้วย ส่วนตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยกับการขายสำนวนมีด้วยกัน 3 หน่วย มียศสูงสุดเป็น ร.ต.อ. ถามว่าตนจะขอความคุ้มครองหรือไม่ คงไม่ขอ เพราะตนไม่กลัวตายอยู่แล้ว
นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า สำหรับพยานที่นำมาวันนี้ไปรู้เห็นเหตุการณ์ซื้อขายสำนวน แล้วขบวนการเหล่านี้จ้างให้เขาหยุดเปิดเผยข้อมูล โดยเสนอให้เงินหลักแสนบาท แต่เขาไม่รับ ส่วนคำจำกัดความของกุ้งมังกร 5 หมื่น มาจากการที่กลุ่มขบวนการดังกล่าวพาพยานไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้กับวัดท่าไม้ จ.สมุทรสาคร และให้เงินเขาก้อนแรกจำนวน 5 หมื่นบาท และในวงอาหารได้มีการสั่งกุ้งมังกรมารับประทานกัน อย่างไรก็ตามตนยังมีพยานปากสำคัญอีกราย แต่ขอเปิดเผยรายละเอียดทีหลัง
“ตอนนี้สิ่งที่ผมทำมันเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้อง และถ้าเป็นเรื่องเท็จผมจะไม่มีที่ยืนในสังคม ดังนั้นสิ่งที่ทำในวันนี้เราต้องการดำเนินการกับคนที่ล้มกระบวนการยุติธรรม ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง นอกจากนี้ยังได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหาย ที่ทนายความคนดังทำคดีให้ไปเรียกรับเงินวิ่งเต้นคดียาเสพติดอีก 5 คดี ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 เรียกเงินค่าวิ่งเต้นคดีละ 5 แสนบาท ทำสำเร็จไป 1 คดี ไม่สำเร็จ 4 คดี มี 2 คดีที่คืนเงินให้ผู้ว่าจ้าง และอีก 2 คดีที่ไม่คืนเงินให้ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบหาความจริง” นายอัจฉริยะ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กล่าวว่า ขณะนี้คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำนายอัจฉริยะ หลังเข้าพบ พล.ต.ท.ชาญเทพ หากมีหลักฐานพาดพิงถึงใครก็จะดำเนินการเรียกมาสอบปากคำทั้งหมด ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นายของ สน.ศาลาแดง ทาง พล.ต.ท.ชาญเทพ ได้สั่งการหากมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องจะต้องดำเนินคดี โดยไม่ปกป้องคนที่กระทำความผิดโดยเด็ดขาด ส่วนให้ออกจากราชการหรือไม่ ก็ต้องให้ทาง พล.ต.ท.ชาญเทพ เป็นผู้ตอบคำถามดังกล่าว
ส่วนกรณีการขอเปลี่ยนคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงนั้น ตนยินดีที่จะเปลี่ยนให้ ซึ่งทางนายอัจฉริยะไม่ติดใจแต่อย่างใด เนื่องจาก ผกก.สน.สายไหม ดูเรื่องการสอบสวนดังกล่าว และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม เกี่ยวข้อง ก็อาจจะเกี่ยวข้องกับการทำงานของตำรวจบางคนทำให้รูปคดีเสียหาย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการอย่างรัดกุมต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี