นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ดำเนินโครงการเสริมสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรรายย่อย ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการไทยนิยมยั่งยืนของรัฐบาล โดยจัดอบรมทักษะอาชีพและการทำธุรกิจการเกษตรขนาดเล็ก พร้อมสนับสนุนให้รวมกลุ่มเสนอโครงการพัฒนาอาชีพ ในชุมชน ซึ่งรัฐจะสนับสนุนงบประมาณชุมชนละไม่เกิน 3 แสนบาท โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 5,278 ล้านบาทเป้าหมาย 9,101 ชุมชนทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้การดำเนินโครงการใกล้สิ้นสุดตามกรอบระยะเวลาของแผนดำเนินงานแล้ว
ทั้งนี้จากข้อมูล ณ วันที่ 19 กันยายน 2561 มีเกษตรกรผ่านการอบรมอาชีพเสริมทั้งสิ้น 1,620,308 ราย หรือคิดเป็น 89.01% จากเป้าหมาย 1,820,200 ราย ใน 9,101 ชุมชน ขณะเดียวกันมีเกษตรกรรวมกลุ่มเสนอโครงการพัฒนาอาชีพและได้รับการอนุมัติทั้งสิ้น 24,977 โครงการ โดยกลุ่มกิจกรรมที่มีการของบประมาณมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ด้านการผลิตอาหารและแปรรูปผลผลิตและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร 7,287 โครงการ หรือ 29.17%, ด้านการผลิตพืช พันธุ์พืช 4,733 โครงการ หรือ 18.95% และด้านปศุสัตว์ 4,672 โครงการ หรือ 18.71% ส่วนที่เหลือเป็นด้านการประมง, การผลิตปุ๋ยอินทรีย์และปรับปรุงบำรุงดิน, การผลิตแมลงเศรษฐกิจ, ฟาร์มชุมชน, การจัดการศัตรูพืชและการเกษตรอื่นๆ ตามลำดับ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้โอนงบประมาณให้เกษตรกรครบทุกโครงการแล้วเป็นเงิน 2,617 ล้านบาท
นายสมชาย กล่าวต่อว่า จากการประเมินผลการดำเนินงานในเบื้องต้น ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ เพราะโครงการสามารถตอบโจทย์การพัฒนาอาชีพให้เกษตรกรแต่ละพื้นที่ได้อย่างตรงจุด รวมทั้งสามารถสร้างอาชีพทางเลือกใหม่ให้เกษตรกรได้ เช่น การเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจ โดยมีเกษตรกรได้รับอนุมัติโครงการ 857 กลุ่ม หรือ 3.56% ซึ่งแม้จะเป็นตัวเลขที่ไม่สูงมาก แต่ก็ถือว่าได้รับความสนใจจากเกษตรกรมากเกินความคาดหมาย
“สาเหตุอาจเป็นเพราะอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ใช้เงินลงทุนน้อย เลี้ยงง่าย ไม่ยุ่งยาก สามารถให้คนเฒ่าคนแก่หรือใช้เวลาว่างเลี้ยงได้ และยังขายได้ราคาสูง มีตลาดรองรับทั้งในและต่างประเทศ เช่น การเลี้ยงแมงป่องช้างที่มีพ่อค้าพร้อมรับซื้อในปริมาณมากเพื่อส่งออกไปจีน เวียดนาม และญี่ปุ่น เช่นเดียวกับจิ้งโกร่งและจิ้งหรีดที่มีพ่อค้ามาขอผูกขาดรับซื้อถึงกลุ่ม จึงเป็นอาชีพทางเลือกที่ดีของเกษตรกร” อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าว
นายอดุลย์ศักดิ์ เสนาชัย ประธานกลุ่มเลี้ยงแมงป่องช้าง ชุมชนโนนป่าหว้าน หมู่ 4 ต.กุดผึ้ง อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู กล่าวว่า ขอขอบคุณรัฐบาลและกรมส่งเสริมการเกษตรที่ได้ขับเคลื่อนโครงการเสริมสร้างรายได้ฯครั้งนี้ เพราะทำให้ได้รับทราบช่องทางทำอาชีพเสริมใหม่ๆ โดยที่เลือกเลี้ยงแมงป่องช้างก็เพราะได้รับทราบระหว่างการอบรมอาชีพ จึงเกิดความสนใจ เพราะตลาดมีความต้องการสูงมากแต่ไม่ค่อยมีใครเลี้ยง
“แมงป่องช้างอาจดูน่ากลัว แต่จริงๆไม่ใช่สัตว์ดุร้าย การเลี้ยงก็ไม่ยาก กินอาหารพวกจิ้งหรีด หอยเชอรี่สับ 1-2 วัน/ครั้ง ไม่ต้องดูแลมาก เลี้ยงประมาณ 8 เดือน-1 ปี ก็จับไปขายได้แล้ว ส่วนตลาด
ก็มีทั้งเอาทอดขายเอง และพ่อค้ามารับเพื่อส่งไปขายจีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม เพื่อเอาไปทำยาแผนโบราณและอื่นๆ โดยจะมารับทีละ 1,000-2,000 ตัวทุกเดือนซึ่งถ้าเลี้ยงประมาณ 10 บ่อ ก็มีโอกาสทำรายได้ครั้งละหลักแสน” นายอดุลย์ศักดิ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี