นายเกรียงยศ สุดลาภา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อม นายกฤษฎา ศิริพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักการคลังแถลงข่าวกรณีราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ กรุงเทพมหานคร ลงนามโดย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมืองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เรื่อง กำหนดที่จอดยานยนต์และอัตราค่าธรรมเนียมจอดยานยนต์ ในถนน 66 สายทั่วกรุงเทพฯ
นายกฤษฎากล่าวว่า เป็นระเบียบเดิมที่มีมาตั้งแต่ปี 2537 ไม่ใช่เรื่องใหม่ และราชกิจจาฯที่เผยแพร่ออกมาครั้งนี้ มีเพิ่มเติมเรื่องเดียว คือข้อ 5 ยกเว้นการจัดเก็บค่าจอดรถบริเวณถนนราชดำริ สำหรับยานยนต์ทุกประเภท ตั้งแต่ช่วง 04.00-08.00 น. ของทุกวัน จากเดิมที่จะยกเว้นใน 3 ช่วงเวลา คือ 04.00-08.00 น.,17.00-19.00 น. และในวันอาทิตย์ตั้งแต่เวลา 17.00-24.00 น.
สำหรับเจ้าหน้าที่ที่จะทำการเก็บค่าธรรมเนียมรถที่มาจอดนั้น นายกฤษฎากล่าวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักการคลัง ซึ่งมีประจำทั้ง 66 จุด โดยจะมีบัตรประจำตัวของกรุงเทพมหานคร และเมื่อมีการจัดเก็บจะออกใบเสร็จรับเงินให้ หากพบมีการแอบอ้างหรือกลุ่มคนฉวยโอกาส สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที ทั้งนี้ ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่จัดเก็บยังน้อย อาจไม่เพียงพอ เพราะส่วนใหญ่จะได้แค่ 1 คนต่อ 1 เส้นทางขณะนี้ กรุงเทพมหานครกำลังแก้ไขในส่วนของพ.ร.บ.ระเบียบการจอดยานยนต์ฯ สามารถให้เอกชนเข้ามารับสัมปทานในการจัดเก็บ เพราะจะสามารถทำได้ครอบคลุมมากกว่า ซึ่งอยู่ระหว่างการแก้ไข แต่ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการให้สัมปทานหรือว่าจ้างบริษัทเอกชนรายใดเข้ามาดำเนินการจัดเก็บตามที่มีกระแสข่าว
“ประชาชนที่อยู่ในเส้นทางส่วนใหญ่จะทราบระเบียบนี้อยู่แล้ว และปฏิบัติกันอยู่ แต่อาจจะมีความแตกตื่นเพราะประชาชนทั่วไปไม่ทราบ รวมทั้งมีการเสนอข่าวไป โดยไม่ได้สอบถามทางหน่วยงานกรุงเทพมหานครที่มีประกาศ และประกาศนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงเส้นทาง เพราะบางเส้นทางเกี่ยวเนื่องกับทางตำรวจ” ผอ.สำนักการคลังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี