28 ก.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พบกับนายเที่ยง ผมงาม หรือ ลุงยาว อายุ 55 และนางมะลิวรรณ ผมงาม หรือ ป้าวัน อายุ 53 ปี สองสามีภรรยา เปิดร้านเล็กๆชื่อว่า “เกิบเซาะกราว รองเท้า&สุรินทร์” ขายรองเท้ามือ 1 และรองเท้ามือ 2 อยู่บริเวณริมทาง สถานีรถไฟศรีขรภูมิ ต.ระแง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ โดยทางร้านมีรองเท้าให้เลือกหลากหลายแบบหลายชนิด ทั้งรองเท้าผ้าใบ รองเท้าหนัง รองเท้าคัทชูผู้หญิง รองเท้าแตะ ซึ่งราคาขายรองเท้าผ้าใบก็จะอยู่ที่ คู่ละ 50 บาท 3 คู่ 100 บาท รองเท้าคัทชู คู่ละ 50 บาท  โดยลูกค้าแต่ละคนก็จะใช้เวลาเลือกกันนานสองนาน เพื่อให้ได้รองเท้าที่ชอบ ถูกใจ และคุณภาพดี

นายเที่ยง ผมงาม หรือ ลุงยาว กล่าวว่า ตนแต่งงานอยู่กินกับภรรยามานานกว่า 30 ปี ชีวิตที่ผ่านมาลำบากมากๆ และทำมาแล้วสารพัดอาชีพ ทำนาก็ต้องพาลูกเมีย ใช้ไม้ปักดิน เพื่อหยอดเมล็ดข้าว เพราะไม่มีรถไถ่นาเหมือนกับชาวบ้านเขา เคยมีที่นา 26 ไร่ ก็เอาไปจำนอง จำนำ และขายฝากจนหมด เพื่อส่งเสียให้ลูกเรียนหนังสือ เหลือไว้ทำนาเพียง 4 ไร่  ภรรยาต้องอุ้มลูกที่เป็นนายตำรวจทุกวันนี้ ใช้ไม้ตำดิน เพื่อหยอดเมล้ดข้าว เมื่อเสร็จก็ต้องอุ้มลูกชายเดินตามคันนาไกลกว่า 3 ก.ม.เพื่อกลับบ้าน พอมาถึงบ้านก็ขุดต้นข่า มาปลอกนำไปขายที่ตลาด ตนทำมาทุกอาชีพตั้งแต่ หว่านแหหาปลา งมหอยขาย เก็บผักป่าขายบ้าง ทำขนมครก และขี่มอเตอร์ไวด์รับจ้าง

บางครั้งเห็นคนยากคนจน จะไปโรงพยาบาลก็ส่งเขาฟรี ก่อนจะหันมาขายรองเท้ามือ 2 ก่อนหน้าทำแผงขายผลไม้ พอดีไม่มีแผงขาย จ้าของเดิมเขามาเอาแผงคืน ลูกชายที่เป็นายตำรวจก็เลยแนะนพ พ่อเม่ลองขายรองเท้ามือ2ดูสิ พอดีมาได้ร้านตรงนี้พอดี ก็ขายมานาน 3-4 ปี ไปรับรองเท้ามาจากตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว โดยไม่มีความรู้มาก่อน ลองผิดลองถูกมา 1ปี เต็มๆขาดทุนมาโดยตลอด พอช่วงปีที่ 2 จนถึงปัจจุบัน มีประสบการณ์มากขึ้น จนประสบความสำเร็จ มีรายได้กว่าเดือนละ 10,000 บาท เก็บหอมรอบริม สามารถไถ่ถอนที่นาที่จำนำไว้กับญาติๆได้ และหมดภาระหนี้สิน ก็อยากจะบอกคนที่กำลังท้อแท้ หมดหวังกับการใช้ชีวิต อยากให้ สู้ สู้ และสู้ จะประสบความสำเร็จเอง