นายกฯเมืองกระบี่แถลงความจำเป็นสร้างโรงไฟฟ้าขยะ ยันภาพที่เสนอผ่านสื่อไม่ใช่ปัจจุบัน

28 ก.ย.61 ที่ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลเมืองกระบี่ นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน และนำสื่อมวลชนลงดูสภาพพื้นที่จริง กรณีกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าขยะเทศบาลเมืองกระบี่ว่า เนื่องจากจังหวัดกระบี่เป็นพื้นที่เมืองท่องเที่ยวมีการเติบโตของประชากรแบบก้าวกระโดด ขยะมูลฝอยที่มีไม่น้อยกว่า 200 ตันต่อวัน ยากต่อการกำจัดโดยต้องรับขยะจากพื้นที่ ต. ทับปริก ต.ไสไทย ต.อ่าวนาง และในเขตเทศบาลรวมถึงเขตเหนือคลองบางส่วน จึงเกิดปัญหาเรื่องกลิ่น น้ำเสีย ขยะตกค้าง ซึ่งปัญหาดังกล่าว เทศบาลเมือง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาโดยต่อเนื่อง มีแผนการบริหารจัดการขยะที่ชัดเจน คือจะฝังกลบขยะในช่วงเช้าและเย็น ส่วนกลางวันจะมีประชาชนในพื้นที่บริเวณดังกล่าวมาคัดแยกขยะ เพื่อเป็นรายได้สำหรับครอบครัวอย่างไรก็ตามการเจริญเติบโตของเมืองท่องเที่ยวทำให้ทั้ง 8 อำเภอ มีขยะมูลฝอยเพิ่มขึ้น เป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง การที่กำหนดให้เทศบาลเมืองกระบี่เป็นศูนย์รวมของขยะของจังหวัด ในการกำจัดขยะเพื่อลดต้นทุนในการขนส่ง โดยทางออกที่ดีที่สุดในขณะนี้คือ การก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะโดยให้เอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการบริหารจัดการ จะช่วยแก้ปัญหาขยะที่ล้นเมืองได้

การสร้างโรงไฟฟ้าโดยใช้ขยะเป็นเชื้อเพลิง เป็นนโยบายรัฐบาลในวาระแห่งชาติ เทศบาลเมืองกระบี่เห็นว่าการนำขยะมาผลิตไฟฟ้าเป็นส่วนแก้ปัญหาได้อย่างถาวร เพราะว่าทุนๆวันโรงไฟฟ้าจะใช้ขยะ 450 ตัน ซึ่งปัจจุบันกระบี่มีขยะวันละ 200 ตัน จำเป็นต้องขุดขยะที่ฝังกลบมาผสมให้ได้อีก 250 ตัน  เมื่อทำเช่นนี้แล้วใช้เวลา 6 – 7 ปี ขยะที่ถูกฝังกลบก็หมดไป

ในส่วนของสุนัข จากการสอบถามประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ทราบว่ามีเข้ามาในบริเวณกองขยะ เป็นช่วง ๆ ขณะที่เทศบาลฯ ได้เข้าไปดูแลฉีดวัคซีน และทำหมันเพื่อลดปริมาณลง ไม่ได้มีจำนวนมากและสร้างปัญหาให้กับประชาชน รวมทั้งภาพที่มีการเสนอผ่านสื่อ online ไม่ได้เป็นภาพในปัจจุบัน ดังที่เป็นข่าว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้จังหวัดกระบี่ได้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการจัดการยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” ประจำปี 2561 รณรงค์สร้างสำนึกตั้งแต่ระดับครัวเรือน  เนื่องจากปัญหาขยะภาครัฐดำเนินการฝ่ายเดียวไม่เพียงพอ ต้องอาศัยประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ตามแนวทาง “ประชารัฐ” ร่วมกันลดปริมาณขยะตั้งแต่ต้นทางโดยใช้หลัก ๓Rs ซึ่งได้แก่ การลดปริมาณขยะ(Reduce)การนำกลับมาใช้ซ้ำ(Reuse) และการนำกลับมาใช้ใหม่(Recycle)  รวมทั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตประจำวัน เพื่อมุ่งสู่สังคมปลอดขยะอย่างแท้จริง