จ่อฟัน6ตำรวจ
บกพร่องคดีค้ายาเอมี่
แฉขรก.ระดับสูงมีเอี่ยว
สอบมารยาททนายตั้ม
ผบช.น.เผยผลสอบเบื้องต้นพบตำรวจชุดจับกุม-สอบสวน 5-6 นายรวมเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระบวนการยุติธรรม บกพร่องหน้าที่ร่วมเป่าข้อหา“เอมี่ แม่มา”ค้ายา ชงเรื่องต่อให้“บิ๊กบัว”ผบช.น.คนใหม่ คาดสรุปได้กลางต.ค. ขณะสภาทนายมีมติสอบมารยาท’ทนายตั้ม’เรียกเงินผู้ค้ากุ้ง
เมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร้องเรียนให้ตรวจสอบกรณีการทำคดีน.ส.อาเมเรีย จาคอป หรือเอมี่ อดีตมิสทีนไทยแลนด์ ปี 2006และดารานักแสดง ข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด โดยอ้างว่ามีตำรวจชุดทำคดี และบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือ ทำให้น.ส.อาเมรียหรือเอมี่ไม่ถูกดำเนินคดีข้อหาจำหน่ายยาเสพติดว่า เรื่องนี้ตนมีคำสั่ง บช.น.ที่ 307/2561 ลงวันที่ 11 กันยายน ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีพล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. เป็นประธานฯ
“เบื้องต้นได้รับรายงานว่า จากการตรวจสอบพบข้อบกพร่องของตำรวจ ในการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 5-6 นาย เป็นชุดจับกุม พนักงานสอบสวนมีหลายระดับ รวมทั้งยังมีเจ้าหน้าที่กระบวนการยุติธรรมระดับสูงรวมอยู่ด้วย แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ซึ่งการสืบสวนสอบสวนคืบหน้าไปมาก คาดว่าจะทราบผลสรุปทั้งหมดของคดีดังกล่าวช่วงกลางเดือนตุลาคม โดยผมจะส่งเรื่องดังกล่าวให้ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น.คนใหม่ที่จะเข้ามารับตำแหน่งช่วงต้นเดือนตุลาคม ดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป”พล.ต.ท.ชาญเทพกล่าว
วันเดียวกัน นายสรัลชา ศรีชลวัฒนา เลขาธิการสภาทนายความ เปิดเผยว่า วันนี้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารสภาทนายความ (บอร์ดชุดใหญ่) มีวาระพิจารณากรณีที่นายอัจฉริยะยื่นหนังสือร้องเรียนเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อขอให้สภาทนายความฯตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม กรณีการเรียกเงินจากพ่อค้า-แม่ค้าส่งออกกุ้ง ในจ.สมุทรสาคร-สมุทรสงคราม จำนวน 500,000 บาท เป็นค่าดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางคดี ซึ่งที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ 23 ต่อ 0 เสียง เห็นว่า ข้อร้องเรียนของนายอัจฉริยะมีมูล จึงให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการมารยาททนายตรวจสอบตามขั้นตอน โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และเรียกผู้ถูกล่าวหาและผู้กล่าวหามาสอบสวน ก่อนสรุปผลส่งให้บอร์ดชุดใหญ่พิจารณาภายใน 30 วัน
“สำหรับบทลงโทษการผิดมรรยาททนายความนั้นมี 3 ระดับคือ การภาคทัณฑ์ การพักใช้ใบอนุญาตว่าความ ไม่เกิน 3 ปี และหากผิดร้ายแรงบทลงโทษระดับที่ 3 คือ การลบชื่อออกจากบัญชีการประกอบวิชาชีพทนายความจากสภาทนายความ ซึ่งข้อกล่าวหาที่นายอัจฉริยะยื่นร้องเรียนมานั้นเรียกได้ว่า เข้าลักษณะร้ายแรงกล่าวหาการเรียกรับเงิน” นายสรัลชา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี