อย.ทลาย รง.ผลิตอาหารเสริม
ยึดของกลาง30ล.
ปูพรม4จุดปทุม-อยุธยา-กทม.
แหล่งใหญ่ซุกสินค้าอันตราย
ผสมสารไซบูทรามีนต้องห้าม
แจ้งหลายข้อหาโทษหนัก
อย.ร่วมกับตำรวจ บก.ปคบ.ปูพรม 4 จุด ย่าน “ปทุมฯ – อยุธยา – ลาดพร้าว – ดอนเมือง” แหล่งใหญ่ผลิตอาหารเสริม ผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมาย ใช้สารต้องห้ามตามประกาศ อย. “ไซบูทรามีน” ยึดของกลางมหาศาล มูลค่ารวมกว่า 30 ล้าน เบื้องต้นแจ้งหลายข้อหา โทษหนักทั้งจำทั้งปรับ
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาการเลขาธิการ
คณะกรรมการอาหารและยา (อย.)นพ.พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการ อย.และเภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม ผู้อำนวยการสำนักอาหารร่วมกับตํารวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.)กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง นําโดย พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รอง ผบก.ป.รรท.ผบก.ปคบ.ร่วมแถลงผลกวาดล้างผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมายที่จำหน่ายตามท้องตลาด เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค
นพ.ธเรศกล่าวว่าจากการที่ อย.เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อวดอ้างสรรพคุณ และสืบสวนสอบสวนหาผู้ทำผิด จนมีการจับกุมดำเนินคดีผู้ผลิตผู้จำหน่ายที่ทำผิดกฎหมายต่อเนื่อง และแจ้งข่าวเตือนประชาชนให้ทราบข้อมูลมาหลายครั้ง เพื่อมิให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อเสียเงินและได้รับอันตรายจากการใช้ ผลิตภัณฑ์ไม่ได้คุณภาพ ประกอบกับ อย.ยกระดับไซบูทรามีน เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 1 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ดังนั้น อย.ประสานตำรวจ บก.ปคบ. สืบหาแหล่งผลิตและจำหน่าย จนพบ ก่อนระดมกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมดังกล่าว
เริ่มจากเป้าหมายที่1. บริษัท พิมเพ็ญ เฮลท์แคร์ อินเตอร์ จำกัด เลขที่ 401 หมู่ 21 อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เปิดเป็นสถานที่ผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพรายใหญ่ พบผลิตภัณฑ์ผิดกฎหมายจำนวนมหาศาล รวมถึงอุปกรณ์การผลิต วัตถุดิบ กล่องบรรจุผลิตภัณฑ์ที่แสดงฉลากไม่ถูกต้องและยังพบของกลางผลิตภัณฑ์กาแฟ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ผิดกฎหมายจำนวนมาก ได้แก่
1.กาแฟไอดอล สลิม คอฟฟี่ แสดงสรรพคุณลดน้ำหนัก แสดงเลขสารบบอาหารและชื่อผู้ผลิตของบุคคลอื่น2. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดน้ำหนัก slim lesterol oristat แสดงชื่อที่ตั้งผู้นำเข้าเป็นของบุคคลอื่น 3. ผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพสำหรับท่านชายชนิดชงดื่ม แสดงชื่อผู้ผลิตของบุคคลอื่นและแสดงสรรพคุณเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ อีกทั้ง ยังพบฉลากผลิตภัณฑ์ยาที่มีไซบูทรามีน Reduce-15mg เจ้าหน้าที่จึงอายัดไว้เป็นของกลางทั้งหมดรวม 69 รายการ และเก็บตัวอย่างอาหารส่งตรวจวิเคราะห์หาสารที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จากการตรวจสถานที่ผลิต เบื้องต้นพบไม่ผ่านจีเอ็มพีตามเกณฑ์ที่กฎหมายบังคับใช้ด้วย
เป้าหมายที่ 2.บ้านเลขที่ 19/46 ต.คานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา แหล่งจำหน่าย ตรวจพบผลิตภัณฑ์กาแฟ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง และพบอาหารปลอม 7 รายการ ได้แก่ 1. Tabongpet 222 กล่อง 2. Like slim yogurt by idol 9 กล่อง 3.Hipo slim detox gold 336 กล่อง 4. Like slim coffee 5.Sliming diet raspberry plus 6. Black gold slim 7.Like slim apple by idol 1,202 กล่อง
เป้าหมายที่ 3.บ้านเลขที่ 105 ซอย 96 ถนนลาดพร้าว แขวงพลับพลา กรุงเทพฯแหล่งจำหน่าย ตรวจพบผลิตอาหารผลิตภัณฑ์สุขภาพ 4 รายการที่มีไว้เพื่อจำหน่ายได้แก่1.เครื่องดื่มแอปเปิ้ลชนิดผงสำหรับลดน้ำหนัก Idol slim apple 2.กาแฟปรุงสำเร็จชนิดผง สำหรับลดน้ำหนัก Tabongpet coffee 3.Hippo Slim Detox 4.กาแฟปรุงสำเร็จชนิดผง สำหรับลดน้ำหนัก BK size coffee อย. ทั้ง 4รายการ แสดงฉลากไม่ถูกต้อง และเข้าข่ายอาหารปลอมแสดงฉลากเพื่อลวง โดยผู้จำหน่ายแจ้งว่าสั่งซื้อทาง IG #Pk nature และจัดจำหน่ายทางเพจ fb PK nature product co.,Ltd (thailand)
เป้าหมายที่ 4.ร้านเจ๊พร ล็อค 1-4 ถ.เชิดวุฒากาศ เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ (แหล่งจำหน่าย) ไม่พบผลิตภัณฑ์ Tabongpet และ like slim coffeeแต่พบผลิตภัณฑ์ idol slim coffee ซึ่งฉลากระบุผู้ผลิตคือ Unozawa company(korea) นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย PK nature product co.,ltd (thailand) เมื่อตรวจสอบข้อมูลจากฐานข้อมูล อย. พบว่า เป็นของผู้ผลิตรายอื่น และฉลากอวดอ้างสรรพคุณประโยชน์
เจ้าหน้าที่ จึงยึดของกลาง ทั้งหมดรวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาทพร้อมส่งตัวอย่างตรวจวิเคราะห์ ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อหาสารที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคต่อไป
สำหรับการดำเนินคดี เบื้องต้นพบทำผิดฐานจำหน่ายอาหารที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท จำหน่ายอาหารปลอม เนื่องจากแสดงฉลากเพื่อลวง มีโทษจำคุก 6 เดือน – 10 ปี และปรับ 5,000 – 100,000 บาท กรณีผลิตภัณฑ์อาหารตรวจพบสิ่งที่น่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพเจือปนอยู่ เข้าข่ายจัดเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“ทั้งนี้ถ้าผลการตรวจวิเคราะห์ พบสารไซบูทรามีน ซึ่งจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 1 ผู้ผลิตหรือนำเข้า จะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี และปรับ 500,000-2,000,000 บาท ผู้ขายมีโทษจำคุก 4–20 ปี และปรับ 400,000 – 2,000,000 บาท รวมถึงการครอบครองหรือบริโภคผลิตภัณฑ์ดังกล่าวถือเป็นการทำผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”นพ.ธเรศกล่าว และย้ำว่า อย.ขอเตือนผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามกฎหมาย มีคุณธรรมจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ เพราะถ้าตรวจพบผู้ผลิตนำสารไซบูทรามีนมาผสมในผลิตภัณฑ์จะถูกดำเนินคดีขั้นรุนแรง เพราะจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 1 ที่อย.ประกาศบังคับใช้แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี