เปิดโครงการ‘โรงเรียนยุติธรรมอุปถัมภ์’ หนุนเด็กรู้กฎหมาย รู้เท่าทันป้องกันภัยสังคม

4 ต.ค.61 พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ยุติธรรม เป็นประธานและสักขีพยาน ในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)  โครงการโรงเรียนยุติธรรมอุปถัมภ์ของกระทรวงยุติธรรม โดยมีกระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และกรุงเทพมหานคร ร่วมลงนาม ที่ห้องราชดำเนิน โรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส เขตหลานหลวง

โดยมี นายเกรียงยศ สุดลาภา รองผู้ว่าฯ กทม. ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม และมี ศ.พิเศษ วิศิศฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม , นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย , นายวีระกุล  อรัณยะนาค ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ , นายพิชญา นาควัชระ รองปลัดกรุงเทพมหานคร , นายอัมพร พินะสา ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. , นายสาโรจน์ ขอจ่วนเตี๋ยว ที่ปรึกษาด้านมาตรฐานอาชีวศึกษาช่างอุตสาหกรรม สอศ. และนายชลำ อรรถธรรม รักษาราชการแทนเลขาธิการ กช. และโฆษก กระทรวงศึกษาธิการเข้าร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง

พล.อ.อ. ประจิน กล่าวในการเปิดการประชุมความร่วมมือ ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาคนตลอดช่วงวัย นั่นคือ หากเด็กและเยาวชนได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่  มีภูมิคุ้มกันต่อพฤติกรรมเสี่ยง ได้รับการปลูกฝังวัฒนธรรมอันดี มีความรู้ มีทักษะชีวิต และได้รับโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ ที่จะใช้ในการพัฒนาตนเอง ย่อมส่งผลให้เด็กและเยาวชนสามารถเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ สามารถสร้างครอบครัวชุมชนที่เข้มแข็งและเหมาะสมต่อไปในอนาคตได้

ทั้งนี้ จึงขอแสดงความชื่นชมทั้ง 6 หน่วยงานภาครัฐ คือ กระทรวงศึกษาธิการ ที่มีหน่วยงานในสังกัด ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา รวมทั้ง กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร ที่ได้ร่วมมือร่วมใจจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนของประเทศ ให้มีความพร้อมในการเติบโตอย่างมีคุณภาพ และเสริมสร้างให้สังคมมีความมั่นคงปลอดภัย อันเป็นพื้นฐานในการพัฒนาประเทศในด้านอื่น ๆด้วย

สำหรับโครงการโรงเรียนยุติธรรมอุปถัมภ์ ถูกจัดตั้งขึ้น ร่วมกับ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้การสนับสนุนโรงเรียน ในฐานะสถาบันหลักสถาบันแรกที่ใกล้ชิดเด็กและเยาวชน ซึ่งจะเติบโตเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต โดยการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนในโรงเรียนและสถานศึกษา เป็นทั้ง “คนดี” ควบคู่กับการเป็น “คนเก่ง” ที่มีพร้อมด้วยคุณธรรม จริยธรรม และภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทันในการป้องกันตนเองจากภัยต่างๆ เพื่อมิให้ตนเองตกเป็นเหยื่อ หรือต้องตกเป็นผู้กระทำผิด สามารถดำรงชีพในสังคมได้อย่างปกติสุข

การดำเนินโครงการโรงเรียนยุติธรรมอุปถัมภ์นี้ มีกรอบการดำเนินงาน 4 ด้าน คือ การป้องกันตนเองจากภัยสังคม  การสร้างจิตสำนึกและวินัยในตนเอง  การรู้เท่าทันและห่างไกลจากยาเสพติด การต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง โรงเรียนยุติธรรมอุปถัมภ์ ในวันนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ซึ่งจะนำไปสู่การร่วมกันดูแล ส่งเสริม และสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนในโรงเรียนและสถานศึกษา เจริญเติบโตและพัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่ เพื่อเป็นต้นทุนที่มีคุณภาพของสังคมต่อไป ในนามของกระทรวงยุติธรรม ขอขอบคุณกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร ที่ได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนในโรงเรียนและสถานศึกษา ร่วมกันกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม

ด้าน นายวีระกุล  กล่าวว่า ศธ. ขอขอบคุณ กระทรวงยุติธรรม ที่ได้สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ เป็นต้นแบบในการนำเรื่องยากมาทำให้เข้าใจง่าย เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ อันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับเด็กและเยาวชนที่อยู่ในระบบโรงเรียน เรื่องของกฎหมายนั้นเป็นเรื่องค่อนข้างยากในการเรียนรู้ แต่ได้เห็นความตั้งใจของหน่วยงานทั้ง 10 กรม ของกระทรวงยุติธรรม ที่มีความมุ่งมั่นที่จะเข้าไปร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ทางด้านกฎหมายให้กับนักเรียนได้มีความรู้ทางด้านกฎหมายเป็นพื้นฐาน ทุกส่วนมีความตั้งใจ ในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ต่อเด็กและเยาวชน ซึ่งขณะนี้ มีสถานศึกษาในสังกัด สพฐ. สอศ. และ สช. จำนวน 775 แห่ง ที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ จากกระทรวงยุติธรรม และหากสามารถขยายการดำเนินงานโครงการนี้ไปยังการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ก็จะเป็นประโยชน์ครอบคลุมเด็กและเยาวชนมากขึ้น

ขณะที่ นายชลำ กล่าวว่า โครงการฯมีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนของประเทศให้มีความพร้อมในการเติบโตอย่างมีคุณภาพ และเสริมสร้างสังคมเคารพกฎหมาย โดยการส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมการให้ความรู้ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ สถานศึกษาเอกชน ก็จะได้รับประโยชน์ จากโครงการโรงเรียนอุปถัมภ์ของกระทรวงยุติธรรม ในการปลูกฝังจิตสำนึกให้แก่เด็กและเยาวชน มีวินัยในตนเอง รู้เท่าทัน และห่างไกลยาเสพติด และต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน อีกทั้ง ยังส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนสามารถป้องกันตนเองจากภัยสังคมในปัจจุบันได้ด้วย