สทนช.จับตาฝนตกหนัก
16จว.ภาคใต้
ห่วงอุทกภัยฉับพลัน
2เขื่อนจ่อระบายน้ำ
ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ สทนช. เฝ้าระวังฝนตกหนักต่อเนื่องในภาคใต้ 16 จังหวัด พร้อมเฝ้าระวังปริมาณน้ำในเขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรีและเขื่อนปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ กล่าวว่า วันนี้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบนมีฝนลดลง
โดยมีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมากใน 16 จังหวัด ของภาคใต้ คือ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง พังงา กระบี่ ภูเก็ต ตรัง สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส สำหรับ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคภาคตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคใต้ ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง
จากปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ขณะนี้สอดคล้องกับการคาดการณ์สถานการณ์และแนวโน้มฝนช่วงเดือนตุลาคม จึงได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการน้ำในเขื่อนเพื่อรองรับฝนล่วงหน้า โดยเฉพาะเขื่อนในภาคตะวันตกและภาคใต้ที่มีปริมาณน้ำในเขื่อนมากและต้องเฝ้าระวัง 2 แห่ง คือ เขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ช่วง 1 – 2 วันนี้ พบมีฝนตกในพื้นที่เหนือเขื่อนบริเวณอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 648 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 91 มีปริมาณน้ำไหลเข้าวันละ 18.68 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเน้นย้ำการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเพชรบุรี หากเพิ่มการระบายน้ำเพื่อรองรับปริมาณน้ำที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นจะต้องผลกระทบกับพื้นที่ท้ายน้ำน้อยที่สุด
ขณะที่ เขื่อนปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีปริมาณความจุน้ำในเขื่อนอยู่ที่ 317 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 81 แต่เนื่องจากมีฝนตกในพื้นที่ต่อเนื่องส่งผลให้มีน้ำไหลเข้าอ่างในวันเดียวสูงถึง 30 ล้านลูกบาศก์เมตร มีการระบายออก 2.2 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงต้องติดตามสภาพอากาศในระยะ 3 วันนี้ เพื่อบริหารจัดการน้ำในเขื่อนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ หากจำเป็นต้องระบายน้ำเพิ่มเติมต้องมีการแจ้งเตือนพื้นที่ท้ายอ่างล่วงหน้า
ขณะที่ พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ สำหรับภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบนมีฝนน้อย อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “กองเร็ย” (KONG-REY) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ได้เคลื่อนตัวขึ้นชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศเกาหลี และได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว และมีทิศทางการเคลื่อนตัวออกไปทางทะเลญี่ปุ่นในวันนี้ ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณประเทศเกาหลีและประเทศญี่ปุ่น ขอให้ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วย โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำไหลหลากใน 2 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ และสุราษฎร์ธานี รวม 9 อำเภอ 16 ตำบล 70 หมู่บ้าน
โดยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ น้ำไหลหลากในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหัวหิน อำเภอสามร้อยยอด อำเภอกุยบุรี และอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ รวม 7 ตำบล 12 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
สุราษฎร์ธานี น้ำไหลหลากในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเคียนซา อำเภอพระแสง อำเภอคีรีรัฐนิคม อำเภอพนม และอำเภอพุนพิน รวม 9 ตำบล 58 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 915 ครัวเรือน 3,010 คน ผู้เสียชีวิต 1 ราย บ้านเรือนเสียหาย 38 หลัง ถนนเสียหาย 104 สาย พื้นที่การเกษตรคาดว่าเสียหาย 1,800 ไร่ ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตรบางแห่ง ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยแจกจ่าย เครื่องอุปโภคบริโภคและน้ำดื่ม พร้อมเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง รวมถึงจ่ายเงินสงเคราะห์ครอบครัว
ผู้ชีวิต อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป ท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี