8 ต.ค.61 พ.ต.อ.สมพร พุกหอม ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ตะวัน วัฒนรังสรรค์ สวป.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้นำกำลังจนท.ตำรวจชุดป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองสุพรรณบุรี เข้าตรวจสอบที่วัดดังกล่าว พร้อมเร่งหาเบาะแสของผู้ก่อเหตุดังกล่าว จนเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ เวลาประมาณ 04.00 น. ตำรวจสภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ หลังผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในวัดเพื่อจะลงมือก่อเหตุซ้ำ ในเวลาประมาณ จึงได้เร่งรัดเข้าสกัดจับ โดยผู้ต้องหาวิ่งหนีเข้าไปหลบอยู่ในวัด ตำรวจจึงได้แจ้งให้ทางวัดทราบ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าผู้ต้องหาหลบอยู่ด้านหลังของวัด บริเวณเมรุ โดยพระลูกวัด ชาวบ้าน ทราบข่าว จึงได้เข้าไปช่วยจนท.ตำรวจจับกุมตัว และนำมาสอบสวนที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ทราบชื่อต่อมา คือ นายฉัตรชัย วังมูล (โอ๋) อายุ 39 ปี พร้อมของกลาง เป็นไขควง ค้อน กรรไกรตัดเหล็ก ด้ามยาว ด้ามสั้น แม่แรง และกระเป๋าถือ 2 ใบ รถจักรยานต์ซาเล้งพ่วงข้าง 1 คัน ยาบ้า จำนวน 10 เม็ด
สอบถาม นายฉัตรชัย วังมูล ผู้ก่อเหตุ ได้การรับสารภาพว่า ได้ตระเวนก่อเหตุขโมยเงินทำบุญวัด ในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.อู่ทอง หลายวัดจะลงมือในช่วงเช้ามืด โดยมีอุปกรณ์เป็นแม่แรง เข้ามางัด โดยทำมาหลายครั้งแล้ว เฉพาะที่วัดสังฆจายเถร ก็ประมาณ 5-6 ครั้ง ได้เงินครั้งละ 100-200 บาท ซึ่งสารภาพว่า ตนนั้นมีอาชีพเลี้ยงหมู แต่เงินไม่พอใช้จึงไปขโมยเงินวัด และก็เอามาใช้จ่ายส่วนตัว และนำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ
พระครูสิริกิตติคุณ เจ้าอาวาสวัดสังฆจายเถร ได้กล่าวว่า ที่วัดโดนขโมยเงินทำบุญหลายครั้ง โดยล่าสุดก็เมื่อประมาณ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ช่วงเช้ามืด โดยผู้ก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาขโมยเงินในตู้บริจาค พยายามใช้แม่แรงงัด แต่ไม่ออก จึงเปลี่ยนแผนไปยกตู้บริจาคอีกจุด ตามภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งก็ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นจนท.ตำรวจสภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้มาตรวจสอบเร่งรัด หาเบาะแสให้ จนมาสู่การจับกุมได้ในที่สุด สำหรับทางวัดนั้นซึ่งก็ไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้ เพราะเงินที่คนมาทำบุญนั้น จะได้มาจรรโลงพระพุทธศาสนา ทำนุบำรุงวัด ซึ่งไม่คุ้มกับการมีพฤติกรรมแบบนี้ เพราะจะต้องเสี่ยงในการติดคุกถูกจับกุมในที่สุด อีกทั้งยังเป็นบาป ติดตัว ซึ่งทางวัดก็ต้องขอขอบคุณตำรวจสภ.เมืองสุพรรณบุรี ที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามหาเบาะแส และเฝ้าระวังติดตามจนสามารถจับกุมตัวในที่สุด
ด้านพ.ต.ท.ตะวัน วัฒนรังสรรค์ สวป.สภ.เมืองสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า หลังจากการสอบสวนแล้ว พบว่าผู้ต้องหารายนี้ เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ทั้งในพื้นที่ อ.เมือง อ.อู่ทอง กว่า 6 วัด ทั้งวัดสังฆจายเถร วัดยางยี่แส วัดหนองตาสามวัดโพธาราม วัดนาลาว และวัดไผ่แปลกแม่ โดยลงมือก่อเหตุช่วงเช้ามืด และใช้อุปกรณ์เป็นแม่แรงงัดตู้บริจาค และนำใส่รถซาเล้ง หลังเอาเงินออกจากตู้ได้ ก็นำตู้เซฟและตู้บริจาค ไว้ในวัดบ้าง หรือ บางครั้งก็นำไปทิ้งในคลองได้เงินครั้งละ 100 - 200 บาท ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ นำเงินไปเสพยาบ้า และใช้จ่ายส่วนตัว ซึ่งได้ตรวจปัสสาวะ พบว่าเป็นสี่ม่วง เบื้องต้น ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้นำตัว ผู้ต้องหาไปชี้จุด ที่ก่อเหตุ ทั้งพื้นที่ อ.เมือง และ อ.อู่ทอง และจุดที่ทิ้งตู้เซฟ ในคลองชลประทาน พื้นที่ อ.อู่ทอง และจุดนำพระพุทธรูปขนาด 9 นิ้ว ไปขาย ก่อนรวบรวมพยานและหลักฐาน ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี