วันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
เลาะรั้วเกษตร : อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

เลาะรั้วเกษตร : อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

วันศุกร์ ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.
Tag : เลาะรั้วเกษตร
  •  

เริ่มต้นปีงบประมาณใหม่ งานก็เข้ากรมวิชาการเกษตรของ อธิบดี เสริมสุข สลักเพ็ชร์ ทันที งานที่ว่านี้คือ โรคใบด่างมันสำปะหลัง เพราะพบมันสำปะหลังแถวๆ ศรีสะเกษ สุรินทร์ และอุบลราชธานี มีอาการน่าสงสัยว่าจะเป็นโรคใบด่าง....

โรคใบด่างมันสำปะหลัง เกิดจากเชื้อไวรัสที่ติดมากับท่อนพันธุ์ มีแมลงหวี่ขาวยาสูบเป็นพาหะ ลักษณะอาการของโรค คือ ใบด่าง เหลือง ใบเสียรูปทรง ยอดที่แตกใหม่จะด่างเหลือง ลำต้นแคระแกร็น ทำความเสียหายให้กับผลผลิตมันสำปะหลัง 80-100%


เมื่อประมาณ 3 ปีก่อนหน้านี้ มีการเตือนมาจากสถาบันระหว่างประเทศว่าด้วยสินค้าเกษตรเขตร้อน หรือ CIAT ว่า พบโรคนี้ระบาดในพื้นที่จังหวัดรัตนะคีรีของกัมพูชา และต่อมาพบการระบาดอีกที่ อำเภอตะเบียงปราสาท จังหวัดอุดรมีชัยประเทศกัมพูชา ใกล้กับชายแดนไทย ห่างจากด่านช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษของไทยเพียง 40 กิโลเมตรเท่านั้น

อธิบดีเสริมสุข ยืนยันว่ามีการเฝ้าระวังโรคใบด่างมันสำปะหลังไม่ให้แพร่ระบาดเข้ามาในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2558 โดยทำการสำรวจพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังใน 50 จังหวัดที่เป็นแหล่งปลูกมาโดยตลอด จนกระทั่งเดือนสิงหาคม 2561 ที่ผ่านมามีการสำรวจพบมันสำปะหลังที่มีอาการน่าสงสัยว่าเป็นโรคใบด่าง ในพื้นที่จังหวัด ศรีสะเกษ สุรินทร์ และอุบลราชธานี ดังที่กล่าวมาแล้ว

กรมวิชาการเกษตรจึงทำลายแปลงมันสำปะหลังที่สงสัยว่าจะเป็นโรคใบด่างทันที พร้อมกับขอความร่วมมือเกษตรกร เจ้าหน้าที่เกษตร และผู้เกี่ยวข้องถ้าพบมันสำปะหลังมีอาการดังกล่าวให้รีบทำลายทิ้งทันทีด้วยการถอน ขุดหลุมฝัง ราดด้วยสารกำจัดวัชพืชก่อนฝังกลบ

นอกจากนี้ยังมีมาตรการเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบพืชนำเข้า ณ ด่านตรวจพืชตามแนวชายแดน ซึ่งการลักลอบนำเข้านั้นมีความผิด ตาม พ.ร.บ. กักพืช เนื่องจาก มันสำปะหลังเป็นสิ่งต้องห้าม ห้ามมิให้นำเข้าท่อนพันธุ์ หรือส่วนขยายพันธุ์ ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ก่อนหน้านี้เมื่อ 26 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา รองปลัดกระทรวงเกษตรฯ รักษาการปลัดกระทรวงเกษตร ดุจเดือน ศศะนาวิน ได้มีหนังสือด่วนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ประสานงานกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด ด่านศุลกากร ด่านตรวจพืช คณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนงานนโยบายและการแก้ไขปัญหาภาคการเกษตรระดับจังหวัด คณะกรรมการทำงานปฏิบัติการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญและแก้ไขปัญหาการเกษตรระดับอำเภอ เฝ้าระวังตรวจสอบปราบปรามการลักลอบนำเข้าท่อนพันธุ์และส่วนใดส่วนหนึ่งของมันสำปะหลังในช่องทางแนวชายแดนตามอำนาจหน้าที่และกฎหมาย โดยเน้นพื้นที่เป้าหมายที่เป็นจังหวัดตามแนวชายแดนติดต่อกับกัมพูชา 12 จังหวัด คือ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี ตราด เลย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร และอำนาจเจริญ

เคยได้ยินข่าวว่า เกษตรกรในประเทศเพื่อนบ้านต้องการท่อนพันธุ์มันสำปะหลังจากไทยจำนวนมาก เพราะท่อนพันธุ์ในประเทศของเขาเสี่ยงต่อการติดโรค แต่ความต้องการดังกล่าวได้รับการตอบสนองอย่างไรไม่มีข้อมูล อาจจะมีการนำท่อนพันธุ์จากไทยไปปลูก ส่วนการนำเข้าท่อนพันธุ์ของไทยไม่น่าจะมี

จะมีคงเป็นหัวมันที่มีส่วนที่เป็นเหง้าติดเข้ามา ซึ่งส่วนนี้เป็นส่วนที่ขยายพันธุ์ได้ เมื่อตัดเอาหัวมันไว้แล้ว ส่วนที่เป็นเหง้าเหล่านี้ทิ้งขวางไปแบบไม่สนใจ แต่เหง้าเหล่านี้แตกกิ่งเจริญเติบโตเป็นต้นใหม่ได้ และเป็นต้นที่มีเชื้อโรคใบด่างติดอยู่ ก็สามารถแพร่กระจายได้

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ บอกว่าราคาหัวมันสำปะหลังสดของไทยในปีนี้สูงสุดในรอบ 10 ปี เพราะปริมาณผลผลิตลดลง แต่ตลาดต่างประเทศมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น ส่วนประเทศเพื่อนบ้านทั้งเวียดนาม กัมพูชา และลาว ปริมาณผลผลิตมันสำปะหลังลดลงเช่นกันจากการระบาดของโรคใบด่างที่ว่านี้

พอราคามันสำปะหลังจะดีขึ้นบ้าง ก็จะเจอกับโรคระบาดเสียอีก...กรรมของเกษตรกรไทยจริงๆ งานนี้กระทรวงเกษตรฯต้องเอาให้อยู่ อย่าปล่อยให้โรคระบาดลุกลามไปเหมือนเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังสีชมพู กว่าจะเอาอยู่ก็แทบแย่....

อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกก็แล้วกัน....

แว่นขยาย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

สื่อเวียดนามจับตาไทย ผ่อนปรนขายน้ำเมาวันพระใหญ่ได้บางสถานที่ หวังกระตุ้นท่องเที่ยว

'มาดามหยก'ปลื้มปชช.นับหมื่นคน พร้อมใจเดินขึ้นดอยสุเทพฯ ร่วมถวายเครื่องสักการะ และสรงน้ำพระบรมธาตุฯ

'กุนซืออิ๊งค์'มาแล้ว! เผยท่าทีไทยต่อสหรัฐฯปมกำแพงภาษี

'เบสท์ ชนิดาภา'แชร์อุทาหรณ์ ถูกมิจฉาชีพหลอกสูญเงิน 1.2 ล้านบาท

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved