ศาลฎีกาพิพากษาแก้ยกฟ้อง 6 อดีต ตร.กาฬสินธุ์ คดีฆ่าอำพรางแขวนคอโจ๋วัย 17 คำเบิกความ พยานหลักฐานมีพิรุธชวนสงสัย ไร้น้ำหนักน่าเชื่อถือ ญาติสุดดีใจ 3 ตร.ก้มกราบขอบคุณศาล ญาติโจ๋อึ้งพูดไม่ออก
เมื่อเวลา 09.30น.วันที่ 11ตุลาคม ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาคดีฆ่าแขวนคอ หมายเลขดำ อ.3252/2552 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1และนายกิตติศัพท์ ถิตย์บุญครอง บิดาผู้เสียชีวิตร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องด.ต.อังคาร คำมูลนา อายุ 54 ปี ด.ต.สุดธินันท์ โนนทิง อายุ 49 ปี ด.ต.พรรณศิลป์ อุปนันท์ อายุ 48ปี พ.ต.ท.สำเภา อินดี อายุ 57 ปี อดีต สวป.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.มนตรี ศรีบุญลือ อายุ 68 ปี อดีต ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และพ.ต.ท.สุมิตร นันท์สถิต อายุ 51 ปี อดีตรอง ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ (ยศและตำแหน่งขณะนั้น)เป็นจำเลยที่ 1-6ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ย้ายศพเพื่อปิดบังเหตุแห่งการตายและเป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญากระทำการในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบเพื่อช่วยเหลือบุคคลหนึ่งบุคคลใดมิให้ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 199,200,289(4)ประกอบ มาตรา 83,89,90,91
กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 22-23 ก.ค. 2547 จำเลยที่ 1-3 และจำเลยที่ 6 เป็นตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ร่วมกันฆ่านายเกียรติศักดิ์ ถิตย์บุญครอง อายุ17ปีเศษ ผู้ต้องหาคดีลักรถจยย.ขณะนำตัวออกจาก สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ด้วยการบีบรัดคอจนเสียชีวิต ก่อนนำศพไปอำพรางคดีปิดบังสาเหตุการตายด้วยการแขวนคอที่กระท่อมนาบ้านบึงโดนหมู่ที่ 5 ต.แสนชาติ อ.จังหารจ.ร้อยเอ็ดจำเลยทั้ง6ได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
คดีนี้ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 30 ก.ค.2555ให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 1-3 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ และย้ายศพเพื่อปิดบังสาเหตุการตาย ส่วนจำเลยที่ 6 ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ ขณะที่จำเลยที่ 5 ลงโทษจำคุก 7 ปี ฐานเป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญากระทำการในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบฯและให้ยกฟ้องจำเลยที่ 4 ต่อมา อัยการโจทก์,โจทก์ร่วม และจำเลยได้ยื่นอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ตรวจสำนวนประชุมปรึกษากันแล้วมีคำพิพากษาแก้ว่าจำเลยที่1-3มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ และเคลื่อนย้ายศพเพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิตจำเลยที่1-3นั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 1-3 แต่คำให้การของจำเลยที่ 2มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ 2ไว้50 ปีและพิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ 4 มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯลงโทษประหารชีวิต แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ลดโทษ 1ใน3 คงจำคุกจำเลยที่ 4ไว้ตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่5-6 มีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญากระทำการในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบฯ แต่ที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 7 ปีนั้น เห็นว่า หนักเกินไป จึงพิพากษาแก้ ให้ลงโทษจำคุก จำเลยที่ 5-6ไว้คนละ 5 ปี ทั้งโจทก์-จำเลย ยื่นฎีกา
โดยวันนี้ศาลเบิกตัว ด.ต.อังคาร ด.ต.สุดธินันท์และด.ต.พรรณศิลป์ จำเลยที่ 1-3 จากเรือนจำมาศาล ส่วนจำเลยที่ 4, 6 ได้รับการประกันตัว เดินทางมาศาล สำหรับ พ.ต.อ.มนตรี จำเลยที่ 5 ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ก.ย.2561ที่ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาแต่ไม่ดินทางมาฟังคำพิพากษา ศาลเห็นว่ามีพฤติการณ์หลบหนี จึงสั่งออกหมายจับ ปรับนายประกัน 1ล้านบาทศาลจึงอ่านคำพิพากษาฎีกาลับหลัง
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้ว เห็นว่าคดีนี้โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานที่เห็นว่า พวกจำเลยลงมือฆ่าผู้ตาย ซึ่งก็มีเพียงพยานปากเดียว ที่ให้การว่าเห็นจำเลยที่ 1-3 นำผู้ตายออกไปจากห้องสอบสวนเท่านั้น ดังนั้น การรับฟังพยานต้องกระทำด้วยความระมัดระวัง ทั้งคำให้การของพยาน ก็ยังมีข้อพิรุธน่าสงสัยตามสมควร ไม่มีน้ำหนัก ให้น่าเชื่อถือ ขณะที่ชั้นพิจารณา จำเลยทั้งหก ก็ให้การปฏิเสธมาโดยตลอด กรณีจึงมีข้อน่าสงสัยว่าพวกร่วมกระทำผิดจริงหรือไม่ ศาลฎีกาจึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้ พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาเสร็จสิ้นบรรดาญาติและผู้ติดตามให้กำลังใจจำเลย ต่างดีใจร่ำไห้เข้าสวมกอดกัน โดยจำเลยถึงกับก้มลงกราบขอบคุณศาล ด้าน นางพิกุล พรหมจันทร์ ญาติผู้ตายกล่าวภายหลังเข้าร่วมฟังคำพิพากษากล่าวเพียงสั้นๆว่า”พูดอะไรไม่ออกเลย”
ในส่วนของ ด.ต.อังคาร คำมูลนา,ด.ต.สุดธินันท์ โนนทิง,ด.ต.พรรณศิลป์ อุปนันท์ จำเลยที่1-3 ที่ถูกคุมขังในเรือนจำ ช่วงพิจารณาศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษายกฟ้อง ถือว่าคดีถึงที่สุดแล้ว จะได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำภายในต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นในปี 2547 ช่วงรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประกาศนโยบายปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ขณะเดียวกันในช่วงเวลาดังกล่าว พบว่ามีผู้เสียชีวิตและหายสาบสูญในจ.กาฬสินธุ์ อย่างต่อเนื่องที่สามารถตรวจสอบรายชื่อได้มีทั้งสิ้น 28 ราย โดยเฉพาะกรณีการฆ่าแขวนคอ นายเกียรติศักดิ์ จนญาติเข้าร้องเรียนสาเหตุการเสียชีวิตต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษซึ่งพนักงานสอบสวนดีเอสไอได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถจับกุมตัวจำเลยทั้ง6ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี